วันนี้ (2 พ.ค 66) เวลา 10.00 น. ที่ สโมสรตำรวจ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ที่เกี่ยวข้องมาประชุมร่วมกันเพื่อสรุปผลของคดี แอม ไซยาไนด์ โดยจะมีความชัดเจนในทางคดีมากยิ่งขึ้น รวมถึงประเด็นการออกหมายจับเพิ่มเติม
พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ให้สัมภาษณ์ว่าก่อนเข้าประชุมว่า ในช่วง 3-4 วันที่ผ่านมาคดีมีความคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว แนวทางการประชุมในวันนี้เพื่อเร่งรัดการสอบสวนจำนวนตัวเลขผู้เสียชีวิตทั้งหมด 14 ราย รอดชีวิต 1 ราย ซึ่งตอนนี้ขอศาลอนุมัติออกหมายจับไปแล้ว 10 คดี พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งอายัดตัวผู้ต้องหาไปแล้ว ซึ่งขณะนี้ผู้ต้องหาอยู่ที่เรือนจับ ส่วนอีก 4 คดีที่เหลือวันนี้จะมาไล่เรียงทั้งหมดเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาให้ครบถ้วนทั้งหมด 14 คดี และพบพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงผู้ที่เกี่ยวข้องมีบุคคลใกล้ชิดในการกระทำความผิดด้วย
ส่วนไซยาไนด์ ตอนนี้พบแหล่งที่มาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมีการประสานไปยังอธิบดีกรมอุตสาหกรรมซึ่งรับผิดชอบและดูแลเรื่องการอนุญาตในการนำเข้า ซึ่งเมื่อนำเข้า มาต้องมีวิธีการควบคุม ใช้ตามวัตถุประสงค์ที่นำเข้ามา ต้องมีวิธีการควบคุมไม่ให้กระจายออกไป ไม่ให้มีการนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง และมีการขออนุมัติหมายค้นต่อศาลเพื่อทำการตรวจค้นแหล่งที่มาของไซยาไนด์ หากพบการกระทำผิดของผู้นำเข้าก็จะดำเนินคดีกับผู้นำเข้าในส่วนหนึ่ง โดยประสานไปยังท่านอธิบดีอุตสาหกรรมและเลขาธิการสำนักงานอาหารและยา (อย.)ในวันนี้
ส่วนที่มีกรณีนายแด้ อดีตสามีของแอมเสียชีวิต มีการสงสัยว่ามีนายตำรวจคนนึงที่มีการขับรถไปรับรถของนายแด้ที่ จ.อุดรธานี มีการเปลี่ยนป้ายทะเบียน มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ระบุว่า เบื้องต้นพบตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องขณะนี้มีเพียง 1 ราย ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ถ้ามีพยานหลักฐานเชื่อมโยงจะดำเนินคดีทั้งหมด ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องที่เป็นนายตำรวจจะทราบภายในวันนี้ภายหลังจากประชุมแน่นอน