เกาะติดความคืบหน้าคดี แอม ไซยาไนด์ หรือ สรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ ฆาตกรต่อเนื่อง ด้วยการวางยาไซยาไนด์เหยื่อเพื่อล้างหนี้ ล่าสุดวันที่ 10 พ.ค.66 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ได้เชิญแพทย์หญิง คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม มาร่วมให้คำปรึกษาในคดีนี้
โดย คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า วันนี้ได้ใช้ความรู้ในทางนิติเวชมาร่วมให้ความช่วยเหลือแก่ชุดสืบสวนของตำรวจในคดี เพื่อให้สำนวนมีความชัดเจนยิ่งขึ้นและสมบูรณ์มากที่สุด โดยได้ดูภาพถ่ายศพต่าง ๆ แต่ไม่ขอตอบในรายละเอียดว่าจะสามารถชี้ชัดถึงสาเหตุการตายของทั้ง 14 ศพได้หรือไม่ เบื้องต้น หมอพรทิพย์ ยืนยัน ว่า ทุกศพมีลักษณะคล้ายกันคือ ตายกะทันหัน ไม่คาดคิด และส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง
ทั้งนี้ยอมรับว่าที่ผ่านมาตัวเองไม่เคยมีประสบการณ์วินิจฉัยสาเหตุการเสียชีวิตจากไซยาไนด์ ที่ดูจากภาพถ่ายมาก่อน แต่ยอมรับว่าเคยผ่าพิสูจน์ผู้เสียชีวิตจากสารไซยาไนด์ ในวันนี้จึงต้องการมาให้ความเห็นเรื่องภาพรวมและต้องการมีส่วนร่วมแก้ไขเรื่องการผ่าชันสูตรศพทั้งระบบ ให้เมื่อมีผู้เสียชีวิตผิดปกติจะต้องมีการผ่าชันสูตรศพทุกราย
รวมถึงต้องมีการเก็บรายละเอียดถ่ายภาพองค์ประกอบร่างกายศพ สีเลือด และต้องบันทึกภาพระหว่างการชันสูตรเก็บไว้ทุกขั้นตอน เพื่อรองรับการตรวจค้นข้อมูลย้อนหลังในอนาคต ในกรณีที่มีคดีลักษณะนี้เกิดขึ้น หรือนำไปเทียบเคียงกับคดีอื่นๆที่มีปัญหา
ส่วนประเด็นเรื่องโซเดียมไทโอซัลเฟต หรือ สารต้านไซยาไนด์ เชื่อว่าผู้ใช้งานจะต้องมีคนแนะนำการใช้ ซึ่งในอดีตคนทั่วไปจะใช้สารพิษเหล่านี้ เป็นไปได้ยากเนื่องจากมีการคุมเข้ม ทั้งการนำเข้าและการใช้งาน แต่หลังจากที่มีการซื้อขายผ่านออนไลน์ก็ยอมรับว่าควบคุมได้ยาก
ด้าน บิ๊กโจ๊ก กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์มา ในฐานะผู้เชี่ยวชาญทางนิติวิทยาศาสตร์ แต่ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย โดยมั่นใจว่า ข้อมูลที่ได้รับวันนี้จะเป็นประโยชน์ และสอดคล้องกับแนวทางการทำงานของคณะสืบสวนที่ได้มีการดำเนินการไปแล้ว แม้ยังไม่สามารถกล่าวในรายละเอียดได้ แต่มั่นใจว่าพยานหลักฐานทุกอย่างเชื่อมโยงกัน ซึ่งคดีนี้ถือเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการค้นหาข้อมูลทั้งหมดเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง
ทั้งนี้ หลักฐานที่ตำรวจได้รวบรวมมาขณะนี้ตนมั่นใจได้ว่าไม่มีความกังวลต่อรูปคดีแล้ว เนื่องจากข้อมูลที่ตำรวจมีตำรวจมีนั้นเป็นคนละชุดกับข้อมูลที่สื่อมวลชนมีอยู่ มั่นใจว่าจะเอาผิดผู้ก่อเหตุได้แน่นอน ส่วนการสืบสวนหาผู้ร่วมกระทำความผิดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ขณะที่พยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเหยื่อทั้งหมด ตำรวจได้รวบรวมไว้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน หากพบว่ามีผู้ร่วมกระทำความผิดก็จะดำเนินการก็จะดำเนินการโดนไม่ละเว้น