"ลุงคลั่ง" เปิดสาเหตุลั่นไกเจ้าของบ้านใหม่ ร้อง "กัน จอมพลัง" ช่วยเหลือ

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (30 พ.ค. 66) เกิดเหตุระทึกลุงคลั่ง เจ้าของบ้านเก่ายิงเจ้าของบ้านคนใหม่ โดยผู้ก่อเหตุคือ นายเดชา อายุ 65 ปี เครียดที่บ้านของตนเองถูกธนาคารยึดขายทอดตลาด จึงใช้ปืนลั่นไกใส่เจ้าของบ้านคนใหม่ น.ส.กมลพร อายุ 52 ปี ที่มาเจรจาของให้ย้ายออก เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ หมู่บ้าน ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

วันที่เกิดเหตุ น.ส.กมลพร ผู้เสียชีวิต มาที่บ้านหลังดังกล่าวกับหลานสาว อายุ 26 ปี เพื่อมาดูบ้านที่ซื้อมาจากกรมบังคับคดีเมื่อต้นปี 2565 โดยก่อนนี้ได้แจ้งเจ้าของบ้านเดิมให้ย้ายออก และมีการผัดผ่อนมาหลายครั้งจนเลยระยะเวลาที่กำหนดแล้ว ซึ่งในวันดังกล่าวผู้เสียชีวิตมาทวงถามเจ้าของบ้านเดิมเรื่องย้ายออก และเข้ามาตัดต้นไม้ที่ขึ้นรกเต็มบ้านออก นายเดชา เจ้าของบ้านเดิม จึงเกิดความเครียดใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงเจ้าของบ้านใหม่วิ่งหนีและเสียชีวิตกลางถนนในหมู่บ้าน

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการปิดล้อมบ้านไว้และให้ผู้ก่อเหตุออกมามอบตัวแต่ไม้เป็นผล จนกระทั่งเวลา 19.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ลูกสาวนายเดชา มาพูดกล่อมให้พ่อมอบตัว โดยผู้เป็นพ่ออยากเจรจา "กัน จอมพลัง" เพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย หากยอมมอบตัว กระทั่งเวลา 20.30 น. นายเดชา ผู้ก่อเหตุได้เปิดประตูหน้าบ้านออกมายอมมอบตัว พร้อมนำอาวุธปืนขนาดลูกโม่.38 วางไว้บนโต๊ะ

ทางด้าน นายเดชา ผู้ก่อเหตุ เผยว่าสาเหตุว่าเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าของบ้านใหม่ ที่เข้ามาทวงถามจนมีปากเสียงกันก่อนเกิดเหตุ โดยนายเดชา อ้างว่าที่ผ่านมาถูกกดดันจากผู้เสียชีวิตมาโดยตลอด ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนลูกโม่ขนาด.38 ที่ซื้อมาจากผู้อื่นเพื่อเตรียมไว้ใช้ป้องกันตัวหลังจากถูกติดตามทวงถามมานาน และยอมรับว่าเป็นคนอารมณ์ร้อน 

นอกจากนี้ นายเดชา ยังอ้างอีกว่า ถูกยึดบ้านตั้งแต่เดือน มิ.ย.2565 เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากธนาคารออมสิน จึงไปยื่นเรื่องร้องเรียนกับธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่มาแล้ว จนมีการมาติดตามขอให้ย้ายออกจากบ้านเมื่อวันที่ 18 ส.ค.2565 พร้อมแจ้งราคาบ้าน 550,000 บาท และอยู่ระหว่างให้ลูกสาวกู้เงินเพื่อไปซื้อบ้าน ยอมรับว่าใจร้อนและวันนี้ถือว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ตัดสินใจก่อเหตุขึ้น

ขณะที่ทางด้าน กัน จอมพลัง ได้กล่าวว่า เรื่องทางคดีว่าไปตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถูกก็ว่าไปตามถูก ผิดก็ว่าไปตามผิด ไม่มีใครใช้ความรุนแรงกับใครได้ ไม่มีใครมีสิทธิฆ่าใคร โดยกระบวนการต่างๆ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการไป เพราะคนตายไม่มีสิทธิมาพูดตอบโต้ด้วย ต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิต ที่ตนเดินทางมาก็เพื่อให้ลุงเขาสบายใจที่เจอตน อารมณ์เขาเย็นลง ไม่อยากให้เกิดความสูญเสีย ไม่ได้มาช่วยให้คนผิดเป็นคนถูก 

วันนี้ลุงให้เอกสารตนมาว่า เรื่องที่ดินเรื่องบ้านไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนต้องนำไปตรวจสอบก่อนในคืนนี้ว่า ข้อเท็จจริงคืออะไร แต่อย่างไรก็ตามหากไม่ได้รับความเป็นธรรม เราก็ไม่มีสิทธิไปสร้างความไม่เป็นธรรมให้ใครเช่นกัน ไม่สามารถนำไปใช้กำลังหรือทำร้ายใคร