ผลสำรวจบริษัทใหญ่ที่ไม่ใช่ด้านการเงินจำนวน 495 แห่ง ระหว่างวันที่ 1-12 ส.ค. พบว่า บริษัทญี่ปุ่นมีความเต็มใจมากขึ้นในการขึ้นค่าจ้างหรือขึ้นเงินเดือนให้แก่พนักงาน
คิดเป็นสัดส่วน 44% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด
ที่ผ่านมาบริษัทญี่ปุ่นพยายามหลีกเลี่ยงการขึ้นค่าจ้าง เนื่องประสบภาวะเงินฝืดที่ดำเนินมานับสิบปี ยากที่จะเพิ่มต้นทุนผู้บริโภคให้สูงขึ้นไปอีก
แต่ในภาวะปัจจุบัน เนื่องจากสินค้าราคาแพง เงินเยนอ่อนค่า ส่งผลต่อค่าครองชีพและสร้างความตึงเครียดแก่แรงงาน ถึงขั้น นาย ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นยังเรียกร้องให้บริษัทแต่ละแห่งขึ้นค่าจ้าง
นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสแห่ง เอสเอ็มบีซี นิกโกะ ซีเคียวริตี (โคยะ มิยามาเอะ) ให้ความเห็นว่า กระแสน้ำเปลี่ยนไปเพราะปัญหาขาดแคลนแรงงาน ทำให้บริษัทต่าง ๆ ตัดสินใจขึ้นค่าจ้าง
พร้อมทั้งส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานให้ดีขึ้นด้วย เช่น ทำสัญญาจ้างงานขึ้นต่ำ 1 ปี และให้เกษียณอายุช้าลงเพื่อกระตุ้นให้ผู้สูงอายุได้ทำงานต่อไป
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังบ่งชี้ว่าธุรกิจ 19% รักษาพนักงานต่างชาติไว้มากว่าปี 2560 ที่มีเพียง 13% และบริษัทสามในสี่ ที่อยากให้รัฐบาลคิชิดะใช้มาตรการครั้งใหญ่อีกรอบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรับมือกับปัญหา
ค่าครองชีพแพง ส่วน 44% อยากเห็นนโยบายการเงินแบบใหม่และเป็นทางเลือกที่หลายบริษัทเห็นด้วยที่สุด