ข้อมูลผู้ที่ลงทะเบียนในระหว่างวันที่ 5–8 ก.ย. 65 พบว่า ผู้ที่ลงทะเบียนที่มีสถานะแสดงข้อความว่า “กระทรวงการคลังได้รับข้อมูลการลงทะเบียนของท่านครบถ้วนแล้ว” มีจำนวนทั้งสิ้น 5,246,699 ราย และเมื่อตรวจสอบข้อมูลกับกรมการปกครองแล้วพบว่า มีผู้ผ่านการตรวจสอบข้อมูลกับกรมการปกครอง จำนวนทั้งสิ้น 4,282,429 ราย บัตรคนจน
โดยผู้ลงทะเบียนกลุ่มดังกล่าวตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนจะพบข้อความว่า “สถานะการลงทะเบียนสมบูรณ์” ซึ่งผู้ลงทะเบียนกลุ่มดังกล่าวไม่ต้องดำเนินการใดๆ ในช่วงนี้ โดยขอให้รอผลการตรวจสอบคุณสมบัติอีกครั้ง ซึ่งจะประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติดังกล่าวในช่วงเดือน ม.ค. 66
ทั้งนี้ สำหรับผู้ลงทะเบียนอีก 964,270 ราย ที่พบข้อความว่า “สถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์” เนื่องจากข้อมูลของผู้ลงทะเบียนไม่ตรงตามฐานข้อมูลของกรมการปกครอง ระบบจะขึ้นข้อความแสดงโดยระบุสาเหตุของการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์ ดังนี้
- ผู้ลงทะเบียนเป็นพระภิกษุ/สามเณร/แม่ชี
- ไม่พบข้อมูลของผู้ลงทะเบียน
- สถานภาพบุคคลของผู้ลงทะเบียนไม่ถูกต้อง มีสถานะเสียชีวิต หรือย้ายไปต่างประเทศ หรือจำหน่าย
- ผู้ลงทะเบียนไม่ได้มีสัญชาติไทย
- ผู้ลงทะเบียนมีอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือรูปแบบวันเดือนปีเกิดไม่ถูกต้อง
- ผู้ลงทะเบียนมีคู่สมรส
- ผู้ลงทะเบียนแจ้งข้อมูลคู่สมรสไม่ถูกต้อง
- ผู้ลงทะเบียนแจ้งจำนวนบุตรครบถ้วน แต่หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของบุตรไม่ถูกต้อง
- ผู้ลงทะเบียนแจ้งจำนวนบุตรไม่ครบถ้วน โปรดตรวจสอบจำนวนบุตรและข้อมูลเลขบัตรประชาชนของบุตรทุกราย
ทั้งนี้ สำหรับกรณีผู้ลงทะเบียนตรวจสอบสถานะแล้วพบว่า "การลงทะเบียนไม่สมบูรณ์ เนื่องจากตรวจสอบกับฐานข้อมูลของกรมการปกครองแล้วพบว่า “ผู้ลงทะเบียนมีคู่สมรส” แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าคู่สมรสของผู้ลงทะเบียนเสียชีวิต และมีใบมรณะบัตรของคู่สมรสแล้วนั้น ขอให้ผู้ลงทะเบียนตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนอีกครั้งในวันอังคารที่ 20 ก.ย. 65 ตั้งแต่ 6.00 น. เป็นต้นไป
อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ลงทะเบียนที่มี “สถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์” กรณีอื่นๆ สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ/สำนักงานเขต หากพบว่าข้อมูลไม่ถูกต้องขอให้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้อง หรือหากพบว่าข้อมูลที่ลงทะเบียนไม่ตรงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ เช่น จำนวนบุตรที่อายุต่ำกว่า 18 ปี มีจำนวนมากกว่าข้อมูลบุตรที่ลงทะเบียนไว้ กรณีดังกล่าว
หากเป็นผู้ที่ลงทะเบียนที่หน่วยงานรับลงทะเบียนจะต้องติดต่อขอแก้ไขข้อมูล ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ผู้ลงทะเบียนได้ยื่นแบบฟอร์มลงทะเบียนไว้เท่านั้น และสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ สามารถติดต่อขอแก้ไขข้อมูลที่หน่วยงานรับลงทะเบียนใดก็ได้ โดยจะต้องแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในวันพฤหัสบดีที่ 3 พ.ย. 65
สำหรับผู้ลงทะเบียนที่ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 9-15 ก.ย. 65 และมีสถานะแสดงข้อความว่า “กระทรวงการคลังได้รับข้อมูลการลงทะเบียนของท่านครบถ้วนแล้ว” สามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนได้ใน วันศุกร์ที่ 23 ก.ย. 65 เป็นต้นไป ผ่านเว็บไซต์หรือให้หน่วยงานรับลงทะเบียนเป็นผู้ตรวจสอบโดยกรอกหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก และวันเดือนปีเกิด
สำหรับความคืบหน้าการเปิดรับลงทะเบียนโครงการฯ ปี 2565 วันที่ 16 ก.ย. 65 ณ เวลา 9.00 น. มีประชาชนลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 13,330,171 ราย โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 8,480,032 ราย และลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 4,850,139 ราย
ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง คือ 1) ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. ของทุกวัน หรือ 2) ลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทยฯ) สำนักงานคลังจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ สังกัดกรมบัญชีกลาง ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต และศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน ได้ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย.-19 ต.ค. 65
สำหรับการลงทะเบียนในช่วงวันหยุดเสาร์–อาทิตย์ ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถลงทะเบียนได้ที่สาขาของธนาคารข้างต้นที่เปิดให้บริการในห้างสรรพสินค้า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่ไม่สามารถลงทะเบียนได้ในวันธรรมดา
โฆษกกระทรวงการคลังได้กล่าวเน้นย้ำว่า ผู้ลงทะเบียนทุกคนที่ได้ดำเนินการแก้ไขข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ผู้ลงทะเบียน “ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน” ได้ในทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไป โดยสามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนดังกล่าวได้ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th หรือตรวจสอบผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทุกหน่วย
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่ tnews.co.th