นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษก กระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าการเปิดรับลงทะเบียนโครงการปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 5-23 กันยายน 2565 ณ เวลา 15.00 น. มีประชาชนลงทะเบียนแล้วทั้งสิ้น 17,364,073 ราย โดยเป็นการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ 9,536,201 ราย และลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียน 7,827,872 ราย
ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง คือ
1.ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ได้ตั้งแต่เวลา 6.00 น. ถึง 23.00 น. ของทุกวัน
2.ลงทะเบียนผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7 หน่วยงาน ได้แก่ สาขาของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานคลังจังหวัด ทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ สังกัดกรมบัญชีกลาง ที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอทั่วประเทศ ภายใต้กระทรวงมหาดไทย สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร ทั้ง 50 เขต และศาลาว่าการเมืองพัทยา เมืองพัทยา ตามวันและเวลาทำการของแต่ละหน่วยงาน ได้ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2565 จนถึงวันที่ 19 ตุลาคม 2565
สำหรับการลงทะเบียนในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถลงทะเบียนได้ที่สาขาของธนาคารข้างต้นที่เปิดให้บริการในห้างสรรพสินค้า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่ไม่สามารถลงทะเบียนได้ในวันธรรมดา
โฆษกกระทรวงการคลัง ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้ลงทะเบียนที่ลงทะเบียนและมีสถานะแสดงข้อความว่า “กระทรวงการคลังได้รับข้อมูลการลงทะเบียนของท่านครบถ้วนแล้ว”สามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไป ผ่านเว็บไซต์ คลิกที่นี่ หรือให้หน่วยงานรับลงทะเบียนเป็นผู้ตรวจสอบโดยกรอกหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักและวันเดือนปีเกิด
ทั้งนี้ ผู้ลงทะเบียนที่ลงทะเบียนในช่วงตั้งแต่วันที่ 5-8 กันยายน 2565 สามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 16 กันยายน 2565 สำหรับผู้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 9-15 กันยายน 2565 จะสามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนในวันนี้
1. “สถานการณ์ลงทะเบียนสมบูรณ์” : ให้ผู้ลงทะเบียนรอผลการตรวจสอบคุณสมบัติ โดยจะประกาศผลการตรวจสอบคุณสมบัติในช่วงเดือนมกราคม 2566
2. “สถานการณ์ลงทะเบียนไม่สมบูรณ์” : เนื่องจากข้อมูลของผู้ลงทะเบียนไม่ตรงตามฐานข้อมูลกรมการปกครอง ระบบจะขึ้นข้อความแสดงโดยระบุสาเหตุของการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์ ดังนี้
1.ผู้ลงทะเบียนเป็นพระภิกษุ/สามเณร/แม่ชี
2.ไม่พบข้อมูลของผู้ลงทะเบียน
3.สถานภาพบุคคลของผู้ลงทะเบียนไม่ถูกต้อง มีสถานะเสียชีวิต หรือย้ายไปต่างประเทศ หรือจำหน่าย
4.ผู้ลงทะเบียนไม่ได้มีสัญชาติไทย
5.ผู้ลงทะเบียนมีอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือรูปแบบวันเดือนปีเกิดไม่ถูกต้อง
6.ผู้ลงทะเบียนมีคู่สมรส
7.ผู้ลงทะเบียนแจ้งข้อมูลคู่สมรสไม่ถูกต้อง
8.ผู้ลงทะเบียนแจ้งจำนวนบุตรครบถ้วน แต่หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนของบุตรไม่ถูกต้อง
9.ผู้ลงทะเบียนแจ้งจำนวนบุตรไม่ครบถ้วน โปรดตรวจสอบจำนวนบุตรและข้อมูลเลขบัตรประชาชนของบุตรทุกราย
ในกรณีที่ผู้ลงทะเบียนมีสถานะการลงทะเบียนไม่สมบูรณ์ สามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ ณ ที่ว่าการอำเภอ/สำนักงานเขต โดยหากผู้ที่ลงทะเบียนที่หน่วยงานรับลงทะเบียนจะต้องติดต่อขอแก้ไขข้อมูล ณ หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ผู้ลงทะเบียนได้ยื่นแบบฟอร์มลงทะเบียนไว้เท่านั้น และสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ สามารถติดต่อขอแก้ไขข้อมูลที่หน่วยงานรับลงทะเบียนใดก็ได้ โดยจะต้องแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565
โฆษกกระทรวงการคลัง ได้กล่าวเน้นย้ำว่า ผู้ลงทะเบียนทุกคนที่ได้ดำเนินการแก้ไขข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ผู้ลงทะเบียน “ตรวจสอบสถานะการลงทะเบียน” ได้ในทุกวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไปโดยสามารถตรวจสอบสถานะการลงทะเบียนดังกล่าวได้ด้วยตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th หรือตรวจสอบผ่านหน่วยงานรับลงทะเบียนทุกหน่วยงาน
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ tnews