ของขวัญปีใหม่ 2566 "ช้อปดีมีคืน66" เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 กำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 40,000 บาท พร้อมกระตุ้นเดินทางท่องเที่ยว "ค่าน้ำมัน" นำมาลดหย่อนภาษี"ช้อปดีมีคืน"
ซึ่งนายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เผย มาตรการช้อปดีมีคืนในปี 2566 นี้ กรมสรรพากรได้ขยายเพิ่มให้นำค่าใช้จ่ายจากน้ำมันเชื้อเพลิง-ค่าน้ำมันของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ มาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในมาตรการช้อปดีมีคืนได้เป็นครั้งแรก เนื่องจากมาตรการในปี 2564-2565 ที่ผ่านนับเป็นค่าสินค้าและค่าบริการที่ไม่เข้าร่วมมาตรการ
สำหรับค่าน้ำมันนั้น จะต้องมาจากสถานบริการน้ำมัน ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและออกใบกำกับภาษีได้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นการเดินทางและการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล
สรรพากร คาดว่าจะมีผู้ได้ประโยชน์ที่จากมาตรการช้อปดีมีคืนครั้งนี้ 1.4 ล้านคน รัฐสูญเสียรายได้จากการลดหย่อยภาษี 6.2 พันล้านบาท แต่จะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมูลค่าประมาณ 4.2 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะเป็นการขยายฐานภาษี และสนับสนุนการใช้ระบบภาษีอิเล็กทรอนิกส์
สำหรับของขวัญปีใหมช้อปดีมีคืนชิ้นนี้ จากกระทรวงการคลัง เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2566 โดยกำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 4 หมื่นบาท
แบ่งเป็น
1.ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวน 3 หมื่นบาทแรก ออกใบกำกับภาษีแบบกระดาษหรืออิเล็กทรอนิกส์
2.ค่าซื้อสินค้าหรือบริการ อีกจำนวน 1 หมื่นบาท ออกใบกำกับภาษีรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้การออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ไม่จำเป็นต้องเป็นร้านค้าออนไลน์ก็ได้ แต่ร้านค้าที่ไปใช้บริการจะต้องมีใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ให้กับผูเข้าร่วมมาตรการ
สำหรับสินค้าที่เข้าร่วมมาตรการ เช่น ค่าซื้อสินค้า และค่าบริการทุกประเภทที่ซื้อจากผู้ประกอบการ ที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงค่าสินค้า โอทอป
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติม tnews