อีกอุบัติเหตุเศร้าที่ทำเอาแฟนคลับและเหล่าคนบันเทิงตกใจไม่น้อย เมื่อมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ ได้รับแจ้งเหตุบิ๊กไบค์พุ่งชนท้ายรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ และเกิดเพลิงไหม้มีผู้เสียชีวิต ซึ่งเหตุเกิดบนสะพานต่างระดับสาลีโข ถนนชัยพฤกษ์ขาเข้า ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
บริเวณที่เกิดเหตุพบซากรถจักรยานบิ๊กไบค์ ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นนินจา สภาพถูกไฟไหม้หมดทั้งคัน ข้างรถพบร่างของ นายพีรพล จันทร์ตรง อายุ 26 ปี หรือ อาร์ม เป็น ลูกชายเอ๋ เชิญยิ้ม ปัจจุบันเป็นเจ้าของเพจล่าท้าผีหลายเพจ ในสภาพร่างกายถูกไฟคลอกนอนเสียชีวิตอยู่ ส่วนคู่กรณีเป็นรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ มีร่องรอยความเสียหายที่ด้านท้าย จอดอยู่เชิงสะพานห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร
ขณะที่ เอ๋ เชิญยิ้ม เมื่อทราบข่าวร้ายได้โพสต์ภาพลูกชายพร้อมกับระบุข้อความสุดเศร้าว่า... "ขอเชิญร่วมฟังสวดพระอภิธรรม อาร์ม พีรพล ณ.วัดเซิงหวาย ( บางซื่อ ) คืนนี้คืนแรก 30 ก.ย #ได้เวลาพักแล้วลูก" ซึ่งมีทั้งเพื่อนๆ ในวงการและแฟนคลับของ เอ๋ เชิญยิ้ม อย่างต่อเนื่อง
สำหรับ เอ๋ เชิญยิ้ม หรือ นายวีระพล จันทร์ตรง นักแสดงตลกอารมณ์ดีที่หลายคนอาจจะมีภาพจำเป็น ผู้กองสมาร์ท ใน ผู้กองเจ้าเสน่ห์ ซึ่งต้องบอกว่าเห็นเบื้องหน้ามอบความสุขให้แฟนๆ แต่แท้จริงแล้ว ชีวิตของ เอ๋ เชิญยิ้ม นั้นต้องเล่นตลกทั้งน้ำตาเห็นครอบครัวอื่นมีความสุข
โดย เอ๋ เชิญยิ้ม ได้เปิดใจผ่านรายการ คุยแซ่บShow เมื่อประมาณปี 2562 ว่าเจ้าชู้หนักมาก มีเมียมาแล้วถึง 6 คน และมีลูกอีก 7 คน ซึ่งเจ้าตัวระบุว่า มันไม่น่าภูมิใจ เพราะว่าตนเรียกว่ามันเป็นการผิดพลาด เป็นการผิดพลาดในชีวิต ก็คือผิดแล้วพลาดด้วย พอพลาดแล้วมีท้อง อุ้มท้องขึ้นมาถ้าเป็นคนอื่นหรือว่าเป็นวัยรุ่นสมัยเก่าก็จะทำแท้ง
"แต่ผมมีความรู้สึกว่าเขาเป็นชีวิตน้อยๆ ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย มาจากที่เรามีความสุขชั่ววูบชั่ววาบไม่ได้คิด แล้วเกิดเขาขึ้นมาแล้วมาฆ่าเขาเนี่ย ไม่ใช่เรื่อง เขาไม่ผิดอะไรเลย เราก็เลยคิดว่าต้องเอาไว้ เราก็เลยกลายเป็นคุณพ่อลูกดก" เอ๋ เชิญยิ้ม เริ่มเล่า
ก่อนที่เจ้าตัวจะลงรายละเอียดต่อไปว่า สมัยก่อนตนก็เป็นตลกคนหนึ่งอยู่ในคาเฟ่วนเวียนอยู่ในแสงสีแล้วก็กิเลสตัณหา มีหมดทั้งผู้หญิงและการพนันครบเครื่อง ซึ่งเราก็ยังคิดไม่ได้เหมือนทุกวันนี้ พอเรามี 1 เนี่ย ตอนนั้นทุกคนพูดเลยต้องมี 2 นอกบ้าน พอ 1 รู้ 1 ยังพอรับได้ แต่รู้ว่า 2 ตั้งท้องด้วยเนี่ยรับไม่ได้ 1 ออก 2 เข้ามาแทนเป็นแบบนี้มาจนถึงเมียคนที่ 4
"ตอนนั้นก็อยู่ด้วยกันทั้งคนที่ 3 แล้วก็ 4 เมื่อถึงเวลาผู้ชายจะบอกว่าสนุกชั่วครู่ ถึงเวลาไม่ผูกพัน ถึงเวลาเราก็ต้องเลือกเมีย แต่เมื่อถึงเวลามันเป็นรักสามเส้านี่เรื่องจริง พอมันเกิดขึ้นปุ๊บจะให้เลิกคนใดคนนึงมันคิดอันดับแรกเลยว่าเขาผิดอะไร มันผิดที่เราเอง บอกเมียว่ามันผิดที่พ่อเองนะเขาไม่ผิดเลย แล้วเมียที่ 3 ก็ไป แต่ลูกก็อยู่กับเราอีก"
เอ๋ เชิญยิ้ม เล่าต่อไปว่า แล้วเมียคนที่ 4 ก็ท้อง ทีนี้คนที่ 4 เราก็รักและผูกพัน เริ่มเป็นผู้ใหญ่ เริ่มเป็นความรักจริงไม่ใช้ความหลง เมื่อก่อนนี้ที่ผ่านๆมามันเป็นความหลงชั่ววูบชั่ววาบ แต่พอเป็นความรักจริงๆ ถึงเวลาเราก็ยังเจ้าชู้อยู่มันเป็นนิสัย ซึ่งอันนี้ตนพูดให้ฟัง เพราะตนเลิกหมดแล้ว แล้วก็มันไม่ดี จนมีคนที่ 5 คนที่ 4 เขาก็เลยไป
"พอไปปุ๊บเนี่ย ผมยังนั่งกับผู้หญิงอยู่เลย แล้วตอนนั้นติดการพนันด้วย ก็เล่นไพ่ไปด้วยผู้หญิงอยู่ข้างๆ ตอนนั้นตลกจะเล่นไพ่ จะมีครบทุกอย่าง ทั้งม้ารวยหวยหุ้น ทั้งดื่มเหล้ามีหมด นั่งเล่นไพ่ผู้หญิงอยู่ข้างๆ อาโทรมาบอก เอ๋ เมียมึงหอบลูกหนีไปแล้วนะคนนี้เอาลูกไปด้วย น้ำตาข้างขวาผมไหลข้างเดียวเลย คนที่ 4 เขาเอาลูกของเขาเองไปด้วย ที่บ้านเหลือลูกของภรรยาที่ 1 2 และ3 อยู่"
จากสถานการณ์ดังกล่าว "เอ๋ เชิญยิ้ม" ต้องหาทางออกด้วยการจ้างข้างบ้านช่วยเลี้ยงลูก ส่วนตนไปเล่นตลก มีอยู่ครั้งที่เราขับมอเตอร์ไซค์ชอปเปอร์ แล้วก็เอาลูกคนเล็กประมาณ 2 ขวบกว่า ซึ่งเป็นผู้หญิง นั่งหน้าฝาถังขับรถไปทำงาน เพราะว่าคนโตฝากเลี้ยงได้ แต่ว่าคนเล็กเอาไปไม่ได้เพราะมันติดพ่อ ก็เลยพาไปเล่นตลกด้วย ตนเล่นตลกอยู่หน้าเวที นักร้องช่วยกันอุ้ม เพื่อนๆ กันช่วยกันอุ้มดูแลให้ บางทีก็นอนอยู่หลังเวที ลูกนอนโซฟา
ก่อนที่ เอ๋ เชิญยิ้ม จะเริ่มกลับมาคิดถึงการใช้ชีวิตที่ผ่านมา และถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลง โดยบอกว่า ตนเล่นตลกไป หันมองไป มองครอบครัวข้างหน้าเขากินข้าวกัน มันนึกถึงตัวเราเอง ว่าที่ลูกเป็นแบบนี้ มานอนข้างหลังแบบนี้เพราะเราไม่หยุด ถ้าเราหยุดลูกจะไม่เป็นแบบนี้ เล่นตลกไปหันหลังน้ำตาไหลไป
"ผมหันหลังน้ำตาไหล เพราะว่าเห็นครอบครัวเขามีความสุขกินข้าว พ่อแม่ลูก แต่เรากำลังแตกทุกอย่าง พร้อมลูกที่บ้านก็อยู่อีกสามคนจ้างเขาเลี้ยง นี่ก็เพิ่งจะสองขวบนอนอยู่ข้างหลังเวที น้องๆ ช่วยกันพัด ผมรู้สึกว่าเราผิด อันนี้ไม่ใช่เรื่องดีเลย แต่ละเรื่องเนี่ย ที่พูดให้ฟังคือเหมือนเป็นวิทยาทานสอนถ้ายังเจ้าชู้อยู่ ว่ามันไม่มีความสุขที่แท้จริง เมื่อคุณมีคนใหม่คุณคิดว่ามีความสุขแล้วมันเป็นอะไรที่เราถูกใจ เรามีความสุขกับตรงนี้ เป็นสุขที่ชั่วคราวแต่เป็นมันความเศร้าที่ยาวนาน"
ทั้งนี้ เอ๋ ยังบอกอีกว่า ตอนนั้นเราคิดไม่เป็น เราไม่คิดว่าชีวิตน้อยๆ มันต้องดูแลกว่าจะเรียนจบ ทำงาน มันไม่ได้หมดเงินแค่หมื่น สองหมื่น หรือแสนสองแสน ซึ่งแต่ละคนที่ทำมามันก็สร้างภาระให้กับตนเอง ถามว่าตนทุกข์ใจไหม ทุกข์ใจมาก แต่ก็ต้องแบก เพราะเราเป็นคนทำ ตอนนั้นลำบากบาก ด้วยลูกเริ่มเรียน แล้วภรรยาไม่ได้ทำอะไร เมียทุกคนไม่เคยทำงาน แล้วเราก็มีคนใหม่อีกเป็นคนที่ 6 ผมยังงงตัวเองเลยว่ากี่คน
"คนที่ 6 คือคนปัจจุบัน เขาอายุน้อยกว่าผม 17 ปี คนนี้เป็นคนที่ผมแต่งงานด้วย ทุกวันนี้ผมเลยคิดว่าผมมีเมียเดียว อยู่กับคนนี้แล้ว ผมรู้สึกว่าอันนี้คือใช่ ความสุขที่แท้จริงคือครอบครัว" เอ๋ เชิญยิ้ม ระบุทิ้งท้าย
ภาพจาก iG : ae_chernyim
ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews