จากกรณีที่ กองประกวดมิสแกรนด์กำแพงเพชร 2023 ได้ร่อนประกาศปลด เอริน ปิยธิดา เส็งหลวง มิสแกรนด์กำแพงเพชร 2023 แบบฟ้าผ่า ในขณะที่ช่วงการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023 รอบตัดสิน เมื่อช่วงค่ำคืนวันที่ 29 เม.ย. 2566 ที่ผ่านมา โดยจะต้องคืนมงกุฎและสายสะพายภายใน 7 วัน ซึ่งงานนี้เหล่าแฟนนางงามได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นโซเชียล
และล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2566 ทางด้าน PD หรือ กองประกวดมิสแกรนด์กำแพงเพชร 2023 ได้ออกมาไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อชี้แจงถึงที่มาของการปลด เอริน มิสแกรนด์กำแพงเพชร 2023 โดย PD เล่าว่า ภายหลังประกวดจบได้ผู้ชนะเป็น น้องเอริน ก็มีการจัดตั้งกลุ่มไลน์เพื่อพูดคุยประสานงานภายในกองประกวด ปรากฏว่าวันหนึ่งน้องไม่อ่านไลน์ ไม่คุยโต้ตอบในแชทเลย ทางพี่เลี้ยงก็ตามตัวน้องไม่เจอ แต่สักพักก็ตามตัวเจอ ซึ่งด้วยเหตุอันใดทางกองก็ไม่ทราบ กระทั่งทางพี่เลี้ยงและนางงามก็เกิดแตกกัน ตัวนางงามก็ไม่เอาพี่เลี้ยงทีมนี้ ซึ่งในการที่คุยกันนางงามต้องมีพี่เลี้ยงเพื่อช่วยซัพพอร์ต แต่น้องไม่เอาพี่เลี้ยงทีมนี้ น้องก็บอกว่า "เดี๋ยวหนูหาเองจัดการเอง" ซึ่งทางกองประกวดก็ถามตลอดว่า น้องไหวไหม จะไปต่อไหม ซึ่งน้องก็ตอบว่า หนูไปต่อ
พอไปต่อทางกองก็เริ่มวางลำดับว่าน้องจะต้องไปต่อยังไง ก็คุยกันในไลน์นี้ตลอดและน้อยมากที่น้องจะมาออกความคิดเห็น เสร็จแล้วก็คุยกันเรื่องสัญญาที่น้องเซ็นไปเป็นสัญญาเก่าที่ทางเวทีแม่ (มิสแกรนด์ไทยแลนด์) ส่งไปให้น้องผิด แล้วน้องก็เซ็นร่วมกับคุณแม่ ซึ่งทาง PD ของกองไม่ได้เซ็นเลย ก็มีการคุยกันว่าน้องมาเซ็นสัญญาใหม่ให้เรียบร้อยแล้วกองประกวดจะช่วยดูแลทั้งหมดให้ เพราะมีการสอบถามแล้วว่า ให้กองประกวดดูแลน้อง 100% ใช่ไหม ซึ่งทางนางงามก็ยืนยันว่า ให้กองประกวดดูแล ซึ่งรวมถึงพี่เลี้ยงทีมเก่า (ที่แตกกับนางงาม) ก็บอกว่าให้ทางกองรับดูแลไปเลย ทางกองจึงได้แต่งตั้ง ผจก.กองประกวดขึ้นมา 1 คน เพื่อให้ดูแลน้อง แต่ปรากฏว่าน้องก็ไม่ค่อยติดต่อ ไม่ประสานงาน ทางกองก็ไม่ได้รับข่าวสารจากน้องเลยว่าน้องทำอะไรอยู่ จนเอะใจว่าในเมื่อตกลงกันแล้วว่าให้กองดูแลซึ่งรวมไปถึงชุดที่ใช้ในการประกวดทั้งหมด
จนกระทั่งในวันที่เข้ากองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์เวทีใหญ่ นางงามก็รายงานตัวเข้ากองแม่เอง โดยที่ไม่แจ้งทางกองกำแพงเพชร ทาง PD ก็คิดว่าน้องอาจจะทำได้ ก็ให้น้องทำไป กระทั่งในรอบชุดเชียงใหม่ มีดีไซเนอร์เขาอยากทำชุดให้น้อง จึงติดต่อมาทางกองกำแพงเพชรก็ยินดี และส่งรูปให้น้องดู ซึ่งน้องก็ไม่ได้ติดขัดอะไร และมีการส่งเบอร์ให้น้องเพื่อให้น้องคุยกับดีไซเนอร์ เพื่อลองและคุยเรื่องคอนเซ็ปต์ให้ตรงกับบุคลิกของน้อง พอวันประกวดดีไซเนอร์ก็บินไปถึงเชียงใหม่ เพื่อนำชุดไปให้ ปรากฏว่าน้องไม่ใส่ บอกเตรียมมาแล้ว ทาง ผจก.ก็เลยบอกว่าไม่ใส่ไม่ได้ เพราะน้องโอเคตั้งแต่แรกแล้ว จะมาเปลี่ยนตอนนี้ไม่ได้ น้องเลยใส่ แต่พอใส่แล้วก็ถอดเลย คำขอบคุณกับดีไซเนอร์ก็ไม่มี ซึ่งทางกองก็ยังมองว่าไม่เป็นไร ยังไม่ใช่รอบสำคัญ เป็นชุดขวัญใจเชียงใหม่
พอกลับมากรุงเทพฯ จะถึงวันพรีลิมฯ ทางกองกำแพงเพชรก็ได้ดีลไว้ให้น้องแล้ว เป็นชุดราตรีที่จัดใหม่เลย แล้วน้องก็ไม่ได้แจ้งว่ามีชุดราตรีไว้แล้ว แต่กลับมาแจ้งก่อนขึ้นพรีลิมฯไม่กี่วัน ซึ่งเราได้ดีลไปแล้ว ทำชุดเสร็จแล้ว น้องก็มาบอกว่าไม่ใส่ เพราะน้องไปดีลกับทีมทำชุดเดิมที่ทำให้ตั้งแต่ประกวดมิสแกรนด์กำแพงเพชร ซึ่งด้วยมารยาทแล้วควรจะบอกทางกองประกวดก่อน เพราะกองไม่ได้ติดที่น้องจะดีลเอง แต่ขอแค่แจ้งให้ทราบก่อนที่ทางประกวดจะหา แต่แบบนี้ทำให้กองเสียหายมาก เพราะเราไปดีลชุดแล้ว เขาก็ตัดให้ใหม่แต่นางงามไม่ยอมใส่ชุด กองเสียหายมาก
นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องกลุ่มโอเพ่นแชตของน้อง ตอนที่แตกกับพี่เลี้ยงเก่าก็ได้ลบไป ทางกองจึงให้น้องสร้างใหม่ ซึ่งก็มีสมาชิกประมาณ 170 กว่าคน ซึ่งในนั้นก็มีทีมงานของกองด้วย ปรากฏว่าในนั้นคือใครพิมพ์ว่าน้องไม่ได้ จะถูกดีดออกหมดเลย ฉะนั้นน้องเป็นคนที่พูดด้วยยากมาก ทุกอย่างมีหลักฐานหมดที่เราคุยกัน ทั้งเรื่องชุด อัพเดตตลอดในการหาชุดให้ ไม่เคยบกพร่อง เราหาให้ทุกชุด แม้ว่าน้องจะใส่บ้างไม่ใส่บ้าง เราก็ถือว่าอยู่ในทีมเดียวกันแล้ว ก็พยายามให้โอกาสน้องคุยเคลียร์กัน ถึงประเด็นที่เกิดขึ้นว่าทำไมไม่ใส่ชุดที่หาให้ รอมาน้องก็ไม่ติดต่อมาเลย เราก็ติดต่อและแจ้งเรื่องราวทั้งหมดกับกองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ตลอด ผู้ใหญ่รับรู้ แต่ตัวน้องเองไม่ตอบ ไม่อ่านไลน์ กับทีมกำแพงเพชรเลย
ทุกวันนี้น้องก็ยังไม่อ่านไลน์ ตั้งแต่ตอนเข้ากองประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์จนถึงวันนี้ โทรไปก็ไม่รับสาย ติดต่อยากมาก เข้าถึงยากมาก มากกกจริงๆ ซึ่งเราทำมิสแกรนด์มาตั้งแต่ปี 2017 ซึ่งนางงามทุกคนก็เป็นที่รู้อยู่แล้วว่าเราทำตามระเบียบของกอง อันไหนไม่เหนือบ่ากว่าแรงเราก็ไม่เอามาเป็นเรื่องแน่นอน แต่กับเรื่องนี้ส่งผลกระทบทำให้กองกำแพงเพชรเสียหาย เราต้องการให้น้องออกมาชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงไม่ประสานงานกับกองประกวด ไม่มีการติดต่อมาเลย
หลังประกาศปลดเมื่อคืน (29 เม.ย.) ยังไม่ได้คุยกับพี่ณวัฒน์ แต่ก่อนหน้านี้แจ้งให้ทราบตลอดถึงเรื่องราวทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้นและเจอปัญหาอะไร ทั้งนี้คิดว่าในปีต่อๆไปอาจจะต้องสแกนนางงามให้มากกว่านี้ สัญญาอาจจะต้องรัดกุมมากกว่านี้ เพราะสายสะพายของแต่ละจังหวัดศักดิ์สิทธิ์และเป็นความหวังของคนในจังหวัด ถ้าทำดี รับประกันได้ว่าเราก็ดีใจ เราอยากทำสายสะพายให้ดีที่สุด แต่น้องไม่เห็นความสำคัญของกอง ของทีมเลย ต้องพิจารณาดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้อง ซึ่งน้องมีสิทธิที่จะพูดจะแถลงได้ เรายินดีรับฟัง แต่น้องก็ไม่พูดอะไรเลย ไม่อะไรทั้งสิ้น
อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าทางทีมกำแพงเพชร เราก็สุดๆแล้วเหมือนกัน เพราะว่าเราก็ได้รับผลกระทบหลายอย่าง “เรื่องที่ปลดเรื่องชุดเป็นปัจจัยหลัก แต่ไม่ใช่อย่างเดียว รวมๆทั้งเรื่องไม่ติดต่อ ประสานงานด้วย ส่วนที่ว่าทำไมติดต่อน้องไม่ได้ ทำไมไม่ติดต่อพี่เลี้ยง เพราะน้องไม่มีพี่เลี้ยง ตั้งแต่แยกกับพี่เลี้ยงเก่า แต่ทางกองก็มีทีมพี่เลี้ยงใหม่ ซึ่งน้องไม่ได้คุยด้วย ซึ่งเก็บตัวที่กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ก็ส่งทีมไปดูแล ส่วนค่าโรงแรมในการเก็บตัวที่กรุงเทพฯ ทางกองก็จ่ายให้ทุกรอบ
ในช่วงที่ยังติดต่อน้องไม่ได้ ทางกองประกวดก็ต้องติดต่อให้มิสแกรนด์กำแพงเพชรปีอื่นๆ รวมถึงรองมิสแกรนด์กำแพงเพชรมาช่วยออกงานแทน และเราก็หวังว่าน้องจะติดต่อมาเพื่อคุยกัน ยืนยันว่าไม่ได้แกล้งน้อง เราไม่ได้เกลียดน้องเป็นการส่วนตัว ไม่มีอะไรกับน้องเลย แต่ที่น้องทำผิดกับเราคือน้องไม่ฟังเราเลย ไม่แจ้งเราก่อนเลย
สำหรับการคืนมงกุฎ ขอให้นางงามส่งคืนภายใน 7 วันนับแต่ประกาศ ส่วนเงินรางวัล 30,000 บาท ไม่ได้เอาคืน เพราะเข้าใจว่าน้องก็ได้ประกวดจนเสร็จสิ้นแล้ว และจะไม่แต่งตั้งรองอันดับ 1 ขึ้นเป็นมิสแกรนด์กำแพงเพชรแทน เพราะว่าการประกวดก็จบลงแล้วในปีนี้ เสร็จสิ้นกระบวนการหมดแล้ว