จากกรณี แบรนด์ดัง "UGO Nutrition" ประกาศปลด "โอม ภวัต" ยุติบทบาทหน้าที่การเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์ หลังจากที่เรื่องราวของ โอม ภวัต จิตต์สว่างดี กลายเป็นประเด็นในโลกออนไลน์ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดย ต้นสังกัด โอม ภวัต ลุยฟ้องแบรนด์ดัง หลังปลดพ้นพรีเซนเตอร์ เซ่นประเด็นร้อน (อ่านข่าว)
ล่าสุด แบรนด์ดัง "UGO Nutrition" ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุ
บริษัท ยูโก นูทรีชันน์ จำกัด ยืนยันปกป้องสิทธิทางกฎหมาย ฟ้องแย้งกลับนายโอม ภวัต จิตต์สว่างดีและ บริษัท จีเอ็มเอ็ม ทีวี
บริษัทยืนยันความถูกต้องและสิทธิชอบธรรมตามกฎหมาย พร้อมต่อสู้คดี ที่ต้นสังกัดของ โอม ภวัต ได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2566 เรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวน 120 ล้านบาท โดย ต้นสังกัดของโอม ภวัต เป็นโจทก์ที่ 1 ฟ้องเรียกเงิน 100 ล้านบาทและโอม ภวัต เป็นโจทก์ที่ 2 ฟ้องเรียกเงิน 20 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 5 ต่อปีของต้นเงินจำนวนดังกล่าวนับจากวันฟ้อง พร้อมค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความในอัตราอย่างสูง ในข้อหาละเมิดโดยการกล่าวหรือไขข่าว เป็นที่เสียหายแก่ชื่อเสียง เกียรติคุณ หรือทางทำมาหาได้ ทางเจริญของโจทก์ทั้งสอง ในขณะที่ ผู้เสียหายที่แท้จริง คือ ทางบริษัท จึงขอชี้แจงความเสียหายที่เกิดขึ้น และขอใช้สิทธิ ตามกฎหมายเพื่อให้เกิดความยุติธรรม และเป็นบรรทัดฐานที่ดีสำหรับองค์กรธุรกิจที่พึงมีจรรยาบรรณในการร่วมมือกันอย่างมืออาชีพ ด้วยความสุจริตใจ ตรงไปตรงมา และสร้างสรรค์
จากกรณีที่ บริษัท ได้ประกาศยุติบทบาทพรีเซนเตอร์ของ โอม ภวัต เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากมีประเด็นในสื่อสาธารณะที่ไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่ายตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 กระทบตัว โอม ภวัต และต้นสังกัด จนส่งผลลบอย่างรุนแรงต่อภาพลักษณ์ของบริษัท ทำให้ไม่สามารถใช้ภาพของพรีเซนเตอร์มาตลอด 4 เดือน ตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงไว้ในสัญญา โดยหลักฐานที่ปรากฏมาตลอดนั้น บริษัท ได้เกิดความ เสียหาย
ทั้งนี้ บริษัท ได้ให้โอกาส โอม ภวัต และ ต้นสังกัดในการแก้ไขเพื่อยุติปัญหา แต่ก็ไม่สามารถนำเสนอทางออกที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน ทั้งในส่วนธุรกิจในฐานะผู้ว่าจ้าง คู่ค้า และต่อสังคม ซึ่งขัดกับภาพลักษณ์ของบริษัท จึงจำเป็นต้องรักษาจุดยืนขององค์กรและภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ในการยุติบทบาทพรีเซนเตอร์ดังกล่าว โดยมีความตั้งใจที่จะหาทางออกและยุดิปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ผลที่ตามมาคือ บริษัท กลับตกเป็นจำเลยโดนฟ้องจากผู้ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ บริษัท
บริษัท ขอยืนยันในเจตนารมณ์ในการที่ทุกคน ทุกองค์กร และทุกภาคส่วนในสังคม พึงอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะเป็นองค์กรเล็กหรือองค์กรใหญ่ ด้วยความเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ บนพื้นฐานความยุติธรรม ความเป็นธรรม มิได้มุ่งเน้นเพียงกำไรและผลประโยชน์ส่วนตน องค์กร และ พวกพ้อง โดยมองข้ามความถูกต้อง ความเป็นจริง และความเสียหาย ที่เกิดขึ้นต่อผู้อื่นและสังคม