"หนิง ปณิตา" เปิดใจเผยมือที่ 3 ไม่มีเงินจ่าย อดีตสามีไม่ทำตามสัญญา

หากใครได้ติดตามข่าวก่อนหน้า "หนิง ปณิตา" ได้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายสาวมือที่ 3 ของอดีตสามี "จิน จรินทร์" โดยทางด้านสาวหนิงก็ชนะคดี ต้องชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 3 ล้านบาท ในระยะเวลา 4 ปี แต่ล่าสุด หนิง ปณิตา เผยว่า ทางฝั่งสาวมือที่ 3 ไม่มีเงินจ่าย และทางอดีตสามียังไม่ทำตามสัญญา

โดยเมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2566 หนิง ปณิตา ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวว่า หนิงว่าเรื่องนี้มันค่อยๆใช้เวลา ในเรื่องของตัวเลขมันเป็นการพูดคุยตั้งแต่อยู่ในศาล น้องเขาคงลำบากมากจริงๆ แต่หนิงก็แจ้งน้องว่ามันเป็นกระบวนการที่ถูกพิพากษาเรียบร้อยแล้ว ก็ขอให้ยึดตามที่ศาลพิพากษาในคำสั่งก่อน เพราะเขามีเวลาที่จะชดใช้มากถึง 4 ปี ส่วนจะเป็นยังไงต่อไป ก็ให้มันเป็นเรื่องของอนาคต ถ้ามันจะมีอะไรปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะเราก็ต้องดูว่าระหว่างทางมันเป็นยังไง

ตัวหนิงเองก็ไม่ได้เป็นคนใจร้ายอะไรหรอก แต่เวลาที่เราจะให้อภัยใครมันก็จะต้องเห็นการแสดงความจริงใจ มันคือสิ่งที่ทำให้เราต้องดูกันยาว ๆ ถ้าระยะยาวเราได้ความจริงใจตรงนั้น การที่เราจะมีการพูดคุยกันอีกสักรอบก็อาจจะเป็นไปได้ ตอนนี้มันยังผ่านมาไม่ถึงเดือนเลย

ส่วนสภาพจิตใจตอนนี้มันก็ไม่ถึงขั้นร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เราก็มีงานที่ใหญ่ขึ้นทุกวัน มีบ้างที่บางวันเราท้อ เหนื่อย แต่ก็เรียนรู้ที่จะแข็งแรงขึ้น หนิงก็หวังว่าเรื่องนี้อยากให้จบ แต่มันก็ยังไม่จบ ยังมีอะไรหลายๆ อย่างที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลง บอกถ้าเป็นไปตามข้อตกลง ทุกอย่างก็จบ คนนึงอยากจบมากแต่อีกคนไม่ยอมจบ มันก็ไม่รู้จะจบยังไง

อดีตสามีเรายังไม่ได้ให้อะไรตามที่ได้สัญญากันไว้ถูกต้องไหม? หนิงก็ยืนยันว่ากระดาษหนึ่งแผ่นที่คุณต้องการแลกกับอิสระภาพ หนิงก็ขอให้เขาทำตามข้อตกลง ซึ่งมันคือข้อตกลงที่ทำให้ลูก สำหรับหนิงถ้าข้อตกลงที่เอาไปพูดแล้วทำให้หนิงเกิดความเสื่อมเสีย หนิงก็ใช้ความอดทนให้ได้มากที่สุด จะพยายามทำให้ดีและมากที่สุดเท่าที่ทำได้ ถามว่าเกี่ยวกับเงินไหม เอาเป็นว่าไม่เกี่ยวกับหนิงเลย เงินกับบ้านต้องเป็นชื่อณิริน เอาเป็นว่าหนิงขอไม่ลงลายละเอียดอะไร หนิงพูดตรงๆ ไปเลยไม่ได้ หนิงทำให้ดีที่สุดกับความรู้สึกของลูกของหนิง ทำให้ลูกรู้สึกดีที่สุด ต้องขอบคุณคุณปู่ที่เมตตาในส่วนค่าเรียน ส่วนที่เหลือหนิงดูแลเองทั้งหมด

ตอนนี้ก็ยังอยู่บ้านด้วยกัน แต่แทบจะไม่ได้คุย ไม่ได้เจอกันเลย ความสุขของหนิงเอาไว้ทีหลัง ขอเอาความรู้สึกของลูกเป็นอันดับแรก สำหรับลูกเราล้วนแล้วแต่คิดว่าเขาเข้าใจ เด็กก็คงมีความรู้สึก เพียงแค่ไม่พูดออกมา หนิงเลือกที่จะคุย อธิบาย แต่เขายังยืนยันที่บอกว่าโอเค เขาบอกว่าหนูกำลังพยายาม หนูรักแม่มากที่สุด เป็นพลังบวกให้ตลอดเวลา