บันเทิง

heading-บันเทิง

ตายาย ตัดขาดลูกสาวคนเล็ก วางยากล่อมประสาทฮุบมรดก ล่าสุดสมบัติไม่เหลือแล้ว

01 พ.ย. 2566 | 19:54 น.
ตายาย ตัดขาดลูกสาวคนเล็ก วางยากล่อมประสาทฮุบมรดก ล่าสุดสมบัติไม่เหลือแล้ว

สมบัติไม่เหลือแล้ว 2 ตายาย ลั่น ตัดขาดพ่อแม่ลูก เอาผิดลูกสาว ให้ถึงที่สุด หลังทราบผลตรวจลูกสาวคนเล็กวางยากล่อมประสาทฮุบสมบัติ 500 ล้าน

 จากกรณี ตายาย เข้าร้องทุกข์หลังถูกลูกสาวคนเล็กวางยาเพื่อฮุบสมบัติกว่า 500 ล้านบาท โดยการโอนทรัพย์สินต่างๆไปเป็นชื่อลูกสาวคนเล็ก ซึ่งการกระทำดังกล่าวเกิดขึ้นโดยที่ 2ตายายไม่รู้ตัว ล่าสุด พา 2 ตายายไปตรวจเส้นผมหาสารพิษ-สารเคมี เพื่อพิสูจน์หาความจริงเรื่องการโดนวางยา ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ซึ่งผลออกมายืนยันชัดเจนว่า ตายายโดนวางยาจริง เป็นการวางยากล่อมประสาท ซึ่งถูกลูกสาวแท้ๆ ซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็กให้กินยาดังกล่าวมานานกว่า 3 ปี 

ตายาย ตัดขาดลูกสาวคนเล็ก วางยากล่อมประสาทฮุบมรดก ล่าสุดสมบัติไม่เหลือแล้ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

heading-ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 ล่าสุดวันที่ 1พ.ย.66 ทาง นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พา 2 ตายายมายังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อฟังผลการตรวจเส้นผมของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์

ตายาย ตัดขาดลูกสาวคนเล็ก วางยากล่อมประสาทฮุบมรดก ล่าสุดสมบัติไม่เหลือแล้ว

   เบื้องต้นจากการตรวจเส้นผมของยาย พบสารเคมีบางชนิดที่เป็นสารเสพติด ซึ่งจากการตรวจสอบย้อนหลังกลับไป พบว่าเป็นยาที่อยู่ในช่วงที่อยู่ลูกสาวคนเล็กพอดี ค่อนข้างชัดเจนว่ายายและตาถูกวางยาในช่วงเวลาที่พำนักกับลูกสาวคนเล็ก 

ตายาย ตัดขาดลูกสาวคนเล็ก วางยากล่อมประสาทฮุบมรดก ล่าสุดสมบัติไม่เหลือแล้ว

หลังทราบผลตรวจ ทางคุณตาคุณยาย กล่าวเปิดใจว่า ปกติลูกสาวคนเล็กจะเป็นคนจัดยามาให้ทาน ซึ่งตนก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ายาที่ลูกสาวจะมาให้ทานมียาอะไรบ้าง แต่ยาตัวนี้ปกติจะจัดให้ทานทุกวัน วันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 2-3 เม็ด และไม่ใช่เป็นยาที่หมอจัดให้ทาน

2 ตายายรู้สึกเสียใจกับการกระทำที่เกิดขึ้น ไม่น่ามาทำกับคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ หลังจากนี้หากลูกสาวมาขอขมาลาโทษ ก็จะไม่ให้อภัยและจะแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด พร้อมที่จะตัดขาดจากความเป็นพ่อแม่ลูก เพราะสมบัติทุกอย่างลูกสาวคนเล็กก็เอาไปหมดแล้ว ทุกวันนี้ไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว เชื่อว่าตัวลูกเขยหรือสามีของลูกสาวคนเล็กก็มีส่วนรู้เห็น เพราะลูกเขยมีส่วนพัวพันเกี่ยวกับยาเสพติดและชอบพูดจาก้าวร้าวกับตนมาโดยตลอด

ตายาย ตัดขาดลูกสาวคนเล็ก วางยากล่อมประสาทฮุบมรดก ล่าสุดสมบัติไม่เหลือแล้ว


  ในส่วนของ  น.ส.อาภาพัสร์ พันธุ์มุง หลานสาวของ2ตายายกล่าวว่า จากผลตรวจของทางแพทย์ ยืนยันว่าไม่ใช่ยาที่คุณตาคุณยายทานเป็นปกติเพื่อรักษาอาการป่วย ซึ่งยาดังกล่าว หากให้ในปริมาณที่มากจะมีผลเป็นสารเสพติดได้ เชื่อว่าคนที่เอามาทานน่าจะมีความรู้เรื่องยาพอสมควรเพื่อให้ออกฤทธิ์กล่อมประสาท ส่วนเรื่องการดำเนินคดีหลังจากนี้จะต้องไปปรึกษาทนายความและตำรวจต่อไป


  ด้านทีมนักวิทยาศาสตร์ประจำสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระบุว่า ยาที่ตรวจเจอเป็นยาแก้ปวดชนิดรุนแรง ที่มีความรุนแรงระหว่างพาราเซตามอลกับมอร์ฟีน โดยผลการตรวจเส้นผมคุณตาคุณยาย พบว่า ตัวอย่างที่ได้มาจากเส้นผมของคุณตา มีความยาวเพียง 5.2 เซนติเมตร จึงทำให้ย้อนกลับไปได้เพียงแค่ 5 เดือน คือประมาณพฤษภาคม 2566ที่ผ่านมา จึงไม่พบตัวยาที่ผิดปกติ พบเพียงแต่ยาที่ทานตามปกติเพื่อรักษาอาการ 3-4 ตัว 

  ตายาย ตัดขาดลูกสาวคนเล็ก วางยากล่อมประสาทฮุบมรดก ล่าสุดสมบัติไม่เหลือแล้ว

 ส่วนผมของคุณยาย มีความยาวถึง 13.7 เซนเซนติเมตร สามารถตรวจย้อนไปถึงเดือนสิงหาคม 2565 จึงมีการตรวจเปรียบเทียบกันในช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 กับเดือนสิงหาคม 2565 ที่อยู่กับลูกสาวคนเล็ก พบว่าทั้งสองช่วงเวลามียาที่คุณยายทานรักษาอาการปกติประมาณ 3-4 ตัว แต่ในช่วงเดือนสิงหาคม 2565 ปรากฏว่ามีสารยาถึง 6-7 ตัว โดยตัวที่เพิ่มมา 2-3 ชนิด พบว่าเป็นยารักษาอาการแก้ปวดชนิดรุนแรง เชื่อว่าเป็นยาที่ทานในระหว่างอยู่กับลูกสาวคนเล็ก 

ตายาย ตัดขาดลูกสาวคนเล็ก วางยากล่อมประสาทฮุบมรดก ล่าสุดสมบัติไม่เหลือแล้ว

 สำหรับ ยาตัวนี้ในทางการแพทย์ ถือว่าเป็นยาที่ต้องควบคุมอย่างยิ่ง จะไม่มีการจ่ายรักษาเป็นการทั่วไป ยิ่งอาการป่วยของคุณตาคุณยาย ยิ่งไม่สามารถทานร่วมกับยาตัวอื่นแก่คุณตาคุณยายได้ เนื่องจากยากลุ่มนี้มีผลต่อสารสื่อประสาทและมีปฏิกิริยาร่วมกับยารักษาทั่วไปของคุณตาคุณยาย จะส่งผลต่อการระบบประสาทและทำลายสมอง

 

    จึงส่งผลให้ที่ผ่านมาคุณตาคุณยายมีอาการเบลอ หากมากเกินไปอาจจะเสียชีวิต ที่ผ่านมาคุณตาคุณยายประสาทดีขึ้น เพราะไม่มียาตัวนี้ตั้งแต่พฤษภาคม2566ที่ผ่านมา ทั้งนี้ก็ไม่ทราบว่า เหตุใดถึงนำยาตัวนี้มาให้คุณตาคุณยายทาน ไม่ทราบว่าทั้งคู่มีอาการปวดถึงขนาดต้องกินยาหรือไม่ ซึ่งต้องเป็นเรื่องการสืบสวนสอบสวนของทางตำรวจต่อไป 

 

  ทั้งนี้ ทาง นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ประจำรองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หลังจากนี้ในทางคดีเป็นเรื่องของตำรวจ โดยผลของเส้นผมคุณตานั้น ไม่พบสารหรือวัตถุออกฤทธิ์แต่อย่างใด ส่วนผลของเส้นผมคุณยายนั้น พบสารออกฤทธิ์ส่งผลต่อการกล่อมประสาท แต่ขอสงวนชื่อยา แต่เป็นยาที่วัยรุ่นชอบนำไปผสมเป็นยามึนเมา 4 คูณ100 

ข่าวล่าสุด

heading-ข่าวล่าสุด

ข่าวเด่น

เผยนาที "พีช" ลูกนายกเบี้ยว ปรี๊ดแตก โวยกองทัพสื่อ ทำกล้องโดนหัว

เผยนาที "พีช" ลูกนายกเบี้ยว ปรี๊ดแตก โวยกองทัพสื่อ ทำกล้องโดนหัว

ลูกสาวลุง-ป้า เล่านาทีลูกนักการเมืองดัง ชี้หน้าด่า ไม่สนคนเจ็บ

ลูกสาวลุง-ป้า เล่านาทีลูกนักการเมืองดัง ชี้หน้าด่า ไม่สนคนเจ็บ

นางเอกดัง "เบลล่า ราณี"  สุดเศร้า สูญเสียคุณยายอันเป็นที่รัก

นางเอกดัง "เบลล่า ราณี" สุดเศร้า สูญเสียคุณยายอันเป็นที่รัก

"เบิร์ด เทคนิค" สูญเสียครั้งใหญ่ สุดเศร้าโลกนี้ช่างใจร้ายกับผม

"เบิร์ด เทคนิค" สูญเสียครั้งใหญ่ สุดเศร้าโลกนี้ช่างใจร้ายกับผม

ข่าวดี รัฐบาลขยายเวลา "คุณสู้ เราช่วย" ถึงสิ้นเดือนนี้

ข่าวดี รัฐบาลขยายเวลา "คุณสู้ เราช่วย" ถึงสิ้นเดือนนี้