นักแสดงรุ่นใหญ่ “ต้อม รชนีกร” ที่ตัดสินใจยกเครื่องหน้าชุดใหม่ในวัย 52 ปี ได้เปิดใจใน รายการ คุยแซ่บShow กับพิธีกร เป็กกี้ ศรีธัญญา และซินแสเป็นหนึ่ง ซึ่งเธอโดนวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ นานาถึงการศัลยกรรมหน้าใหม่ ต้นเหตุเป็นเพราะได้มีภาพหลุดขณะที่เธอกำลังทำศัลยกรรมออกมาว่อนโซเชียล ด้าน ต้อม รชนีกร ยอมรับว่า ทั้งจิตตก ทั้งใช้ชีวิตยาก จนไม่กล้าออกจากบ้าน
โดย ต้อม รชนีกร บอกว่า การทำศัลยกรรมครั้งนี้ทำเพียงแค่การตัดกรามและดึงหน้า ถือว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่ ก็มั่นใจในฝีมือคุณหมออยู่แล้วว่าจะต้องออกมาสวย ก่อนจะตัดสินใจก็มั่นใจอยู่แล้ว และมันต้องใช้เวลากว่าจะสวย
เธอเปิดใจในรายการว่า “เอาจริง ๆ ถ่ายคลิป ถ้าถ่ายไว้เผื่อเอาไว้ดูกันในโรงพยาบาล มันเป็นปกติอยู่แล้วที่เขาจะต้องเอาไว้ดู เราก็ไม่ได้คิดว่ามันจะมีภาพหลุด ตัวพี่เองไม่รู้เลย จนกระทั่งนอนได้สัก 4 วันแล้วมีเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่พี่เป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่โทรมา เราก็รับเขาพูดว่า เจ๊เนี่ยหนูเห็นคลิปแล้วนะ เราก็ตกใจ คลิปอะไร เราไม่รู้เรื่อง ผู้จัดการก็ไม่บอก แฟนก็ไม่บอก โทรศัพท์เราก็ไม่ได้รับใด ๆ อยู่แล้ว”
หลังจากนั้น ต้อม ก็ได้ถามกับทางผู้จัดการและได้ดูคลิป เป็นคลิปที่ทุกคนอาจจะเห็นแล้วว่ากำลังนอนหลับตาอยู่และหน้าตึง แต่คลิปมันถูกปล่อยไปแล้วเธอจึงไม่ได้ทำอะไรและปล่อยไป แต่ก็ได้มีการโทรคุยทางกับโรงพยาบาลว่า หากครั้งหน้าจะปล่อยคลิปอะไรออกไปจะต้องขอตรวจเช็กก่อน
ต่อมา ทางต้อมและผู้จัดการได้รับผลกระทบหนัก เพราะเมื่อมีการตรวจเช็กภายหลังพบว่า มีอีกหนึ่งคลิปที่ถูกเผยแพร่ออกมา เป็นคลิปที่ต้อมเพิ่งออกจากห้องผ่าตัด พร้อมทั้งมีเครื่องช่วยต่าง ๆ อยู่รอบตัว ซึ่งครั้งนี้ทำให้ต้อมตกใจมาก พยายามเข้าใจว่าเป็นการโปรโมทของโรงพยาบาล แต่ทางต้อมได้มีการขอให้โรงพยาบาลซ่อนหรือลบคลิปเหล่านั้นออกไปก่อน แต่ถึงอย่างไรตัวของต้อมเองก็ได้รับผลกระทบแล้ว
ต้อม เปิดเผยต่อว่า เวลาที่ออกไปข้างนอกหรือทานข้าวที่ห้าง แม้จะปกปิดใบหน้าอย่างมิดชิดแล้ว และคิดว่าไม่มีใครจำได้ แต่พอมีคนจำได้ก็ทำให้ต้อมใช้ชีวิตลำบาก เพราะภาพเหล่านั้นก่อนที่หน้าใหม่จะเข้าที่ถูกเผยแพร่ออกไปก่อนแล้ว และตอนนี้ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็รู้สึกเหมือนตกเป็นจุดที่คนพร้อมมองและบูลลี่ตลอดเวลา
“มันจิตตกค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนดารา ทุกคนจะบอกว่าทำไมเธอไปออกอย่างนี้ ฉันไม่ได้เป็นคนออก ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำ คือภาพที่นอนเป็นผัก นั่นคือเป็นอะไรที่เราช็อกมากนะว่าแบบมันออกไปได้ยังไง คือมันเหมือนศพ เราเข้าใจแล้วว่าทำไม fc เราถึงได้โทรมาปรี๊ดกับทางผู้จัดการ ซึ่งจุดนี้คือพูดนะคะ ไม่ใช่ไม่พูด ว่าแบบขอตอนที่เราสวยเลยได้ไหม เพราะว่าเราก็มี fc เราอยู่ แล้วบอกเลยว่า fc เราทุกคนอยากเห็น ไม่ว่าเราจะอยู่ในสภาพอะไรก็แล้วแต่ เขาอยากเห็นเราสวย เพราะเราอยู่ในใจเขาที่เป็นแบบนั้น แต่พอเขามาเห็นสภาพเราเป็นแบบนี้ ทุกคนจะบอกว่า จะหน้าเหมือนเดิมไหม หน้าเก่าก็ดีอยู่แล้ว ทำไมไปทำ คือมาแบบกระหน่ำมาก”
ทั้งนี้ เธอยังบอกอีกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกระทบกับการทำงานของเธอ ทั้งงานพรีเซ็นเตอร์ที่ติดต่อไว้แล้วก็หายไป ความเสียหายตรงนี้ใครจะรับผิดชอบให้เธอ เพราะเธอไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้เลย
ต้อม กล่าวต่อว่า ที่ต้องออกมาสู้กับเรื่องนี้เพราะอยากออกมาช่วยแก้ข่าว ซึ่งเธอก็ได้ทำสัญญากับทางโรงพยาบาลแล้วว่าจะเป็นพรีเซนเตอร์ให้ เพียงแต่ว่าระยะเวลาของการปล่อยคลิปออกมาในช่วงที่ไม่เหมาะสม เลยทำให้ชีวิตของเธอแย่ไปช่วงหนึ่ง เธอไม่ได้ถือโทษโกรธใคร และเข้าใจดี แต่เธอก็อยากให้เข้าใจว่าตัวเธอเองก็ไม่อยากให้แฟนคลับเห็นภาพของเธอแบบนั้น และขอบคุณทุกคนที่คอยให้กำลังใจมาเสมอ
อย่างไรก็ตาม ต้อม รชนีกร ได้พูดทิ้งท้ายถึงบทเรียนที่เธอได้รับในครั้งนี้ว่า “ได้บทเรียน ถือว่าเยอะเลย อย่างที่เราคิดว่าเราทำสัญญา เขียนสัญญามันก็เหมือนกับทุก ๆ คน ทุก ๆ ที่ เหมือนกับดาราหลาย ๆ คนที่ทำ คือเราจะต้องสวยก่อน แล้วถึงออกมาให้คนเห็น แล้วภาพจริง ๆ ที่มันออกไป อยู่ห้องไอซียู ห้องผ่าตัด จริง ๆ มันก็เอาออกไม่ได้อยู่แล้ว เพราะนั่นมันคือการผิดกฎหมาย เราไปเจอตรงนั้น เราก็ช็อกเหมือนกัน โอเคหลังจากนี้ไปเราต้องทำทุกอย่างให้มันชัดเจน เพราะเราไม่รู้หรอกสังคมยุคนี้ทุกอย่างมันเร็วไปหมด มันออกตามสื่อไปหมด ก็ถือว่าเป็นบทเรียน”