ศาลสั่งจำคุก 5 ปี "แยม ธมลพรรณ์" อดีตนางเอกดัง ฐานฟอกเงินและเว็บพนัน

18 กรกฎาคม 2567

ศาลตัดสินจำคุกอดีตนางเอกชื่อดัง "แยม ธมลพรรณ์" 5 ปี หลักถูกจับพร้อมสามีในคดีเปิดเว็บพนันและฟอกเงินจำนวนมาก

วันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ศาลอาญาพิจารณาคดีและมีคำพิพากษาจำคุก แยม ธมลพรรณ์ 5 ปี ส่วนนาย นายภูมิพัฒน์ สามี ตัดสินจำคุก 20 ปี ฐานเปิดเว็บพนันและคดีฟอกเงินจำนวนมาก ส่วนจำเลยอื่นๆที่ถูกจับได้รับโทษลดหลั่นกันไป และยกฟ้อง 1 ราย

 

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี แยม ธมลพรรณ์ อดีตนางเอกดัง ฐานฟอกเงินและเว็บพนัน

 

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี แยม ธมลพรรณ์ อดีตนางเอกดัง ฐานฟอกเงินและเว็บพนัน

 

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกันจับกุมเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์และเว็บไซต์ที่เผยแพร่ภาพยนตร์ การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลอันเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ รวมถึงภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาลามกอนาจารผ่านเว็บไซต์ โดยจับกุมผู้ต้องหาคือ นายภูมิพัฒน์ หรืออั้ม อายุ 42 ปี (สามี แยม ธมลพรรณ์) , นายเชษฐ์ชัย อายุ 38 ปี และ แยม ธมลพรรณ์ ภาณุชิตพุทธิวงศ์ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา

สำหรับ น.ส.ธมลพรรณ์ ภาณุชิตพุทธิวงศ์ หรือ แยม  อดีตนางเอกละครพื้นบ้านแนวจักรๆวงศ์ๆ อายุ40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 2818/2565 ลง 13 ธ.ค.65 นั้น ซึ่งจากกรณีดังกล่าวได้ทำการขยายผลติดตามจับกุมผู้ร่วมขบวนการซึ่งเป็นบัญชีม้า 

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี แยม ธมลพรรณ์ อดีตนางเอกดัง ฐานฟอกเงินและเว็บพนัน

 

แยม อดีตนางเอกละครพื้นบ้านแนวจักรๆวงศ์ๆ โดยแยม ธมลพรรณ์ ถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อม ให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนัน ในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน

 

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี แยม ธมลพรรณ์ อดีตนางเอกดัง ฐานฟอกเงินและเว็บพนัน

 

ด้านสามีถูกตัดสินจำคุก 20 ปี ในข้อหา 

1.ร่วมกันเพื่อประสงค์แห่งการค้าทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งรูปภาพ ภาพโฆษณา รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพ หรือสิ่งอื่นใดอันลามก

2.ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวน โดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน

3.สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคน ขึ้นไปเพื่อกระทำผิดความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน