เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าเห็นใจอย่างมาก เมื่อเว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า หนุ่มชาวจีนรายหนึ่งต้องเจอกับเหตุการณ์สุดช็อก หลังเขาได้นำเงิน 6 ล้านหยวน (ราว 29 ล้านบาท) ไปฝากไว้ที่ธนาคารแห่งหนึ่ง หลังจากที่เขาเสร็จธุระก็ได้ออกไปหามื้อกลางวันกิน โดยไม่คาดคิดว่าช่วงเวลาเพียงอาหารมื้อเดียวจะทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนตลอดกาล
โดยรายงานระบุว่า เขาได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปฝากธนาคารไว้ เพื่อจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัท ซึ่งหลังจากที่เขาเสร็จธุระกับธนาคาร เขาก็ออกไปหามื้อกลางวันกิน แต่ระหว่างที่เขานั่งกินข้าว ก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนจากธนาคาร ว่ามีการใช้เงินจำนวน 20,000 หยวน (ราว 97,000 บาท) จากบัตรที่เพิ่งเปิดใหม่จากธนาคาร ตอนแรกเขาไม่ได้สนใจอะไรเพราะนึกว่าเป็นข้อความหลอกลวง แต่กลายเป็นว่า ภายใน 15 นาที เขาได้รับข้อความแบบนี้ติดต่อกันมากกว่า 200 ข้อความ แต่ละข้อความแสดงการใช้เงินไป 20,000 หยวนเหมือนกันทั้งหมด
ทั้งนี้ เมื่อเขาตรวจสอบเงินก็พบว่า มียอดการใช้จ่ายสะสมเป็นเงิน 5.285 ล้านหยวน (ราว 25 ล้านบาท) เขาจึงรีบโทรหาฝ่ายบริการลูกค้าของธนาคาร แต่เจ้าหน้าที่กลับบอกเพียงไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น และแนะนำให้เขารีบไปที่ธนาคารเพื่อแจ้งเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน แต่สุดท้ายนายเจิ้งก็เหลือเงินติดบัญชีเพียง 690 หยวน (ราว 3,300 บาท) เท่านั้น แลถที่น่าโมโหกว่าคือทางธนาคารไม่สามารถหาสาเหตุได้ และขอให้เขากลับบ้านไปรอฟังข่าว แต่หลังผ่านไปกว่า 10 วัน นายเจิ้งก็ยังไม่ได้รับการติดต่อจากธนาคาร เมื่อเขากลับมาที่ธนาคารอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ก็ยังมีท่าทีราวกับธนาคารไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารให้คำอธิบายว่า มีการจัดตั้งทีมสืบสวนเรื่องนี้ทันทีที่เกิดเหตุ และพบว่าเงินถูกใช้ไปกับบริษัทแห่งหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งตอนแรกธนาคารคิดว่าเขามีความสัมพันธ์เป็นพาร์ตเนอร์กับบริษัทนี้ จึงมองว่าเป็นการใช้จ่ายตามปกติ ก่อนที่เขาจะได้ปฏิเสธไม่รู้จักบริษัทดังกล่าวและไม่เคยเกี่ยวข้องทางธุรกิจกัน สุดท้ายเขาร้องขอให้ธนาคารคืนเงินโดยเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นก็ต้องเป็นฝ่ายชดเชยเงิน 6 ล้านหยวนคืนแก่เขา ต่อมาทางตำรวจได้เข้ามาสอบสวน จนพบว่าเงินของเขาถูกถ่ายโอนไปยังบัญชีของธนาคารอื่น จึงทำเรื่องอายัดบัญชีไว้แล้ว แต่ยังไม่มีรายงานว่าเงินที่ถูกเอาไปนั้น สามารถนำกลับคืนมาได้หรือไม่