จากกรณีข่าวการสูญหายของ "เรือดำน้ำไททัน" ของ บริษัท โอเชียนเกต เอ็กซ์พิดิชั่น ที่หายสาบสูญไปพร้อมลูกเรือ 5 คน ระหว่างลงไปทัวร์ชมซากเรือไททานิค ตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ต่อมาช่วงเช้ามืดวันศุกร์ (23 มิ.ย. 2566) ตามเวลาไทย พลเรือตรี จอห์น มอเกอร์ แห่งหน่วยยามฝั่งสหรัฐ ได้แถลงว่าชิ้นส่วนที่พบจำนวน 5 ชิ้นเป็นชิ้นส่วนของเรือดำน้ำไททัน คาดว่าเกิดจากการระเบิดและผู้อยู่บนเรือทั้ง 5 คนเสียชีวิตแล้ว โดยยังไม่สามารถระบุได้ว่าเหตุระเบิดเกิดขึ้นเมื่อใดหรือจากสาเหตุใด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะยังคงเดินหน้าปฏิบัติการค้นหาต่อไปเพื่อความกระจ่าง แต่ไม่อาจยืนยันได้ว่าจะสามารถกู้ร่างของผู้เสียชีวิตได้หรือไม่
ขณะที่ บริษัท โอเชียนเกต เอ็กซ์พิดิชั่น ผู้ให้บริการดำน้ำท่องเที่ยวและดำน้ำลึกชมซากเรือไททานิค ก็ได้ออกแถลงการณ์ด้วยเช่นกันว่า ผู้โดยสารพร้อมคนบังคับเรือ รวม 5 ชีวิต ได้เสียชีวิตทั้งหมดแล้ว
ล่าสุด ญาติของ ชาห์ซาดา ดาวูด นักธุรกิจชาวปากีสถาน และสุไลมาน ดาวูด หนุ่มวัย 19 ปี ที่ต้องสูญเสียบุคคลที่รักไปถึง 2 คน ได้เปิดใจว่า
ในตอนแรก สุไลมาน หลานชายมาบอกว่า เขาไม่ได้อยากลงเรือดำน้ำลำนี้ และไม่ได้อยากไปดูซากเรือไททานิกกับพ่อแต่อย่างใด แต่ที่ยอมไปเพราะอยากเอาใจพ่อของเขาในวันพ่อนั่นเอง เพราะพ่อของเขามีความหลงใหลและศึกษาประวัติศาสตร์เกี่ยวกับโศกนาฏกรรมเรือสำราญไททานิคอับปาง เขาคงพยายามเอาชีวิตรอด พยายามหาอากาศหายใจ มันเจ็บปวดมากๆ
ระหว่างที่รอฟังข่าวการค้นหาเรือดำน้ำไททัน เธอได้แต่เฝ้าภาวนาด้วยความหวังว่าปาฏิหาริย์จะมีจริง แต่สุดท้ายแล้วก็ได้รับฟังข่าวร้าย จากการแถลงของหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ ที่ระบุว่าพบชิ้นส่วนเรือดำน้ำไททัน ที่คาดว่าระเบิดจากแรงดันน้ำ ในขณะที่ 5 คนบนเรือเสียชีวิต