แม่ทิ้งลูกวัย 3 เดือนอยู่บ้านคนเดียว ดูกล้องใจแทบขาด เกือบเสียใจตลอดชีวิต

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวเตือนอุทาหรณ์ เมื่อเว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า แม่ชาวจีนรายหนึ่งออกไปทำธุระนอกบ้าน โดยทิ้งลูกน้อยวัย 3 เดือนนอนอยู่บ้านคนเดียว ก่อนเปิดกล้องวงจรปิดเช็กอีกทีแทบช็อก ภาพที่เห็นทำเอาแทบขาดใจ บอกเลยเกือบเสียใจไปตลอดชีวิต

 

โดยรายงานระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งบนโซเชียลเน็ตเวิร์กของจีนได้มีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์ที่ทำให้หลายคนแทบหยุดหายใจ โดยเฉพาะเหล่าคุณแม่ที่มีลูกเล็กๆ ตามเนื้อหาในคลิปพบว่า แม่คนหนึ่งมีลูกวัย 3 เดือน แต่เพราะธุระด่วนจึงจำเป็นต้องออกไปจากบ้าน ปล่อยให้ลูกนอนคนเดียวบนเตียง ก่อนออกไปเธอยังเอาผ้าห่มคลุมลูกอย่างระมัดระวัง และระหว่างที่ออกไปจากบ้านก็เฝ้าดูกล้องเพื่อสังเกตสถานการณ์ของลูก

 

 

อย่างไรก็ตาม หลังจากหลับไปได้สักพัก จู่ๆ เด็กน้อยก็ตื่นขึ้นโบกไม้โบกมือเล่น ทำให้ผ้าห่มขึ้นไปคลุมปิดทั้งใบหน้าในทันใด ในตอนนั้นเมื่อแม่เห็นว่าลูกกำลังตกอยู่ในอันตราย แต่เธออยู่ไกลจากบ้านพอสมควร จึงทำได้เพียงโทรแจ้งตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ เธอร้องไห้สะอึดสะอื้นแจ้งตำรวจว่า "ช่วยด้วย ฉันไม่ได้อยู่บ้าน แต่ลูกของฉันถูกผ้าปิดหน้า และกำลังจะขาดอากาศหายใจ" ถึงแม้ว่าเธอจะโทรหาตำรวจแล้ว แต่ทุกวินาทีที่ผ่านไป หัวใจของคนเป็นแม่ก็ยังร้อนเป็นไฟ เมื่อมองไปที่กล้องเห็นลูกยังคงดิ้นอยู่ใต้ผ้าห่ม

 

 

นอกจากนี้ ในคลิปยังเห็นถึงตอนที่ตำรวจปรากฎตัวเข้าไปยกผ้าห่มขึ้นเพื่อช่วยชีวิตทารก ซึ่งเห็นได้ว่าใบหน้าของเด็กเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ จึงรีบเช็ดเหงื่อและลูบหัวปลอบโยนเด็กน้อย หลังจากนั้นไม่กี่นาทีแม่ก็กลับมาถึงบ้าน เธอกอดลูกชายไว้แน่น และขอบคุณตำรวจฮีโร่นายนี้

 

 

ทั้งนี้ หลังจากคุณแม่รายนี้ได้แชร์คลิปดังกล่าวบนโลกออนไลน์ ได้รับความคิดเห็นที่หลากหลายจากชาวเน็ต คนส่วนใหญ่คิดว่าแม่ขาดความรับผิดชอบเมื่อทิ้งลูกวัย 3 เดือนไว้คนเดียวที่บ้านแล้วออกไปนอกบ้าน แต่บางคนก็ออกมาปกป้อง เพราะมองว่าแม่ทุกคนรักลูก แต่เพราะไม่มีทางเลือกอื่น เธอจึงต้องจำใจปล่อยลูกไว้ที่บ้านคนเดียวนั่นเอง