เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าเห็นใจอย่างมาก เมื่อเว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า โลกออนไลน์ของจีนได้มีการแชร์เรื่องราวชวนตกใจและเป็นกระแสวิจารณ์ดุเดือด หลัง "เสี่ยวเฟย" เด็กชายวัย 10 ขวบ ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนในเมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง เขาเป็นเด็กฉลาดและเรียนเก่งมาก ผลการเรียนของเขาอยู่ในอันดับที่ดีที่สุดในชั้นเรียนเสมอ แต่ถึงอย่างนั้นพ่อแม่ก็ยังไม่พอใจ บังคับเรียนหนักมากขึ้นอีก สุดท้ายเกิดอาการชักเข้าโรงพยาบาล ก็ยังบังคับให้เขาอ่านหนังสือ
โดยรายงานระบุว่า พ่อและแม่ของเขาเข้มงวดมาก ยังคิดว่าลูกของตัวเองไม่เก่งมากพอ นอกจากการบ้านที่โรงเรียนให้มาแล้ว พ่อแม่ยังให้ลูกชายอ่านหนังสือและทำแบบฝึกหัดเพิ่มเติมอีกทุกวัน และไม่ยอมให้ลูกได้ทำกิจกรรมบันเทิงหรือมีเวลาผ่อนคลาย จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่เสี่ยวเฟยเข้าไปอ่านหนังสือในห้อง อยู่ ๆ เขาก็มีอาการชักเกร็งและล้มลงกับพื้น แม่ของเสี่ยวเฟยเข้าไปเห็นจึงตกใจมาก เพราะไม่รู้ว่าลูกชายเป็นอะไร แต่หลังจากเกิดอาการนั้น ลูกชายก็กลับมาเป็นปกติ พ่อแม่ของเขาจึงคิดว่าลูกชายไม่ได้มีปัญหาร้ายแรง นอกจากนี้เด็กชายยังมีอาการเหนื่อย รู้สึกกระวนกระวาย และนอนไม่หลับทุกวัน และหลังจากวันนั้น เขาก็มีอาการชักเกร็งเช่นเดิมอีกบ่อยครั้งขึ้น
ในที่สุดพ่อแม่ของเสี่ยวเฟยจึงตัดสินใจพาลูกชายไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ด้านนักจิตวิทยาพบว่า พ่อแม่ของเสี่ยวเฟยนั่นเอง เป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยของลูกชาย และอาการของเขาก็น่าเป็นกังวลมาก เพราะมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงขึ้น เด็กชายได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคฮิสทีเรีย ผู้ป่วยที่เป็นโรคประเภทนี้จะมีปัญหาทางด้านอารมณ์และจิตใจ รวมทั้งสูญเสียการทำงานของร่างกายบางส่วน หรือทั้งหมดอย่างไม่ได้ตั้งใจ และมักจะเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ
นอกจากนี้ แพทย์ยังพบอีกว่า เสี่ยวเฟยร้องไห้อย่างรุนแรงเมื่อต้องกรอกแบบฟอร์มทดสอบบุคลิกภาพ เพราะเขารู้สึกว่าเหมือนการทำการบ้าน และเมื่อเขาต้องอ่าน เขียน หรือแม้แต่จับปากกา เขาจะมีอารมณ์ที่ผิดปกติ และถึงกับชัก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เขาถูกบังคับให้เรียนอย่างหนักจนป่วยเป็นโรคฮิสทีเรีย ส่งผลให้การรับรู้ ความจำ อารมณ์ พฤติกรรม การรับรู้ตนเอง และการรับรู้สิ่งแวดล้อมบกพร่อง รวมถึงเรื่องการนอนหลับ และน้ำหนักลด
ทั้งนี้ แพทย์แนะนำให้เสี่ยวเฟยเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล แต่ถึงกระนั้นในตอนแรก แม่ของเขายังคอยกระวนกระวายใจเรื่องเรียนของลูก กลัวว่าลูกจะหยุดนิ่ง ให้ลูกชายท่องสูตรคูณและเอาแบบฝึกหัดมาให้ลูกทำถึงที่เตียงโรงพยาบาล ส่วนพ่อของเขาก็พยายามกระตุ้นให้ลูกชายหายไว ๆ จะได้กลับไปเรียนหนังสือต่อ จนในที่สุดหมอต้องเชิญให้ผู้ปกครองของเขาออกไป เพื่อรักษาเด็กชายโดยลำพัง ซึ่งพ่อแม่ของเสี่ยเฟยไม่มีทางเลือก จึงจำใจต้องกลับบ้านไป แล้วปล่อยให้ลูกชายอยู่ในความดูแลของแพทย์
อย่างไรก็ตาม หลังจากเขาได้รับการรักษาอย่างเป็นอิสระจากพ่อแม่เป็นระยะหนึ่ง อาการของเขาก็เริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาการนอนไม่หลับค่อย ๆ หายไป และน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นมา 4 กิโลกรัม เมื่อสุขภาพร่างกายเริ่มสมบูรณ์ สุขภาพก็จิตใจเริ่มแข็งแรงขึ้นตามลำดับ จนใกล้ถึงวันที่แพทย์จะอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล ทางจิตแพทย์ก็ได้เชิญผู้ปกครองของเขาเข้ามาพูดคุยอย่างจริงจัง เพื่อให้พวกเขาตระหนักถึงปัญหาของลูกชาย และบอกความจริงว่าหากพวกเขายังปฏิบัติกับลูกเช่นเดิม วันข้างหน้าพวกเขาอาจจะต้องเผชิญกับความสูญเสียมากกว่านี้ก็ได้ ก่อนที่จะทำให้พวกเขาสำนึกและปล่อยโฮออกมา