สยองกว่าที่คิด ไม่ซักผ้าปูที่นอนทุกสัปดาห์ แบคทีเรียสะสมยิ่งกว่าโถส้วม
สยองกว่าที่คิด แม้อาบน้ำก่อนขึ้นเตียง แต่ไม่ซักปลอกหมอน-ผ้าปูที่นอนทุกสัปดาห์ แบคทีเรียสะสมยิ่งกว่าโถส้วม แนะควรซักสัปดาห์ละครั้ง
เตียงนอน ถือว่าเป็นพื้นที่ผ่อนคลายที่เราใช้เวลาพักผ่อนในยามค่ำคืน จึงต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดของผ้าปูที่นอนกับปลอกหมอน เพื่อสุขภาพของทางเดินหายใจและผิวหนัง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนเช่นกันที่จะมีเวลาทำความสะอาดเครื่องนอน ทำให้เกิดมีความถามขึ้นมาว่าเราควรซักผ้าปูที่นอนบ่อยแค่ไหน
อย่างไรก็ตามในยุคสมัยที่คนวุ่นกับการทำงาน บางคนคิดว่าผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่มก็ดูสะอาดดี ไม่สกปรกอะไรไม่จำเป็นต้องซักผ้าปูที่นอนบ่อยก็ได้ แต่ว่าในความเป็นจริง แม้เราว่าจะเข้านอนหลังจากอาบน้ำแล้วก็ตาม พวกแบคทีเรียต่างๆนั้นสะสมลงอยู่ในเครื่องนอนของเรานั่นเอง ซึ่งได้แก่
- รังแค เหงื่อ เราจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนเตียงประมาณ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน แม้ในยามหลับร่างกายก็จะยังคงขับเหงื่อ รังแคออกจากหนังศีรษะและผิวหนัง รวมถึงขี้หูและขี้ตา จึงเป็นเหตุให้ที่นอนสะสมไว้ไม่รู้ตัว
- ตัวไรฝุ่น จะชอบอาศัยอยู่ตามผ้าฝ้าย โดยเฉพาะผ้าปูที่นอนและผ้านวมที่มีแหล่งอาหารมากมาย ซึ่งอุจจาระและซากของไรฝุ่นเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคภูมิแพ้ทางจมูกและโรคหอบหืด
- การตกค้างของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและยา โดยบางคนจะมีการสกินแคร์ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ดังนั้นอาจมีสารตกค้างภายในที่นอนได้
ทั้งนี้ ตามรายงานของ ฮัลโหลคุณหมอ ได้แนะนำว่าควรซักผ้าปูที่นอนสัปดาห์ละครั้ง และไม่ควรปล่อยไว้นานเกิน 2 สัปดาห์ โดยเฉพาะทารก เด็ก หรือผู้ที่มีผิวหนังบอบบาง และผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ซึ่งถ้าไม่ซักทำความสะอาดเครื่องนอนต่างๆเป็นเวลานาน สิ่งสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่บนเตียงจะกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรีย และถ้าไม่ได้ซักผ้าปูที่นอนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ จำนวนแบคทีเรียบนที่นอนก็มีมากกว่าในโถส้วม อาจส่งผลต่อผิวหนังและทางเดินหายใจ ได้แก่ โรคภูมิแพ้ หายใจไม่ออก รูขุมขนอักเสบทั้งใบหน้า, หลัง, ทวารหนัก, ขา หรือส่วนอื่นๆ หรืออาจทำให้เกิดโรคกลากได้ ดังนั้นความถี่ในการทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ที่เหมาะสมคือสัปดาห์ละครั้ง หรือนานที่สุดไม่ควรเกิน 2 สัปดาห์ และแนะนำให้ซักผ้านวมทุกๆ 2-3 เดือน
สำหรับการทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้านวม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผ้าฝ้าย การอบแห้งจึงอาจทำให้หดตัว ซึ่งถ้าหากแห้งยากเนื่องจากอากาศชื้นหรือไม่มีที่ตากผ้า แนะนำให้การอบแห้งด้วยอุณหภูมิต่ำกว่า 40 องศา เวลาในการอบแห้งครั้งเดียวไม่เกิน 15 นาที