"ไฟป่าฮาวาย" เสียชีวิตเกือบร้อย สะเทือนใจทั้งโลก ไม่ได้เปิดไซเรนเตือนภัย : คืบหน้าสถานการณ์ "ไฟป่าฮาวาย" ล่าสุดมีรายงานว่า รัฐฮาวายเปิดสอบสวนเกี่ยวกับการตอบสนองต่อไฟป่าบนเกาะเมาวี ซึ่งเป็นภัยพิบัติที่คร่าชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐ ขณะที่มีข้อมูลว่า ไซเรนเตือนภัยทั้ง 80 จุดทั่วเกาะไม่ได้เปิด หลังจากไฟป่าเริ่มลุกไหม้ตั้งแต่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
โดยไฟป่าบนเกาะเมาวีของสหรัฐฯ ที่ทำให้ทั้งเมืองกลายเป็นเถ้าถ่าน คร่าชีวิตประชาชนอย่างน้อย 89 รายแล้ว และคาดว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจะยังเพิ่มสูงขึ้นอีก ขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีกหลายร้อยคน กลายเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐฮาวาย แซงหน้าภัยพิบัติสึนามิถล่มบนเกาะใหญ่ของหมู่เกาะฮาวาย ที่มีผู้เสียชีวิต 61 รายในปี 2503
ที่ผ่านมาทางรัฐฮาวายภูมิใจว่ามีระบบไซเตือนเตือนภัยสาธารณะกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ขณะนี้ชาวบ้านตั้งคำถามว่า ทำไมไม่มีการเปิดไซเรนเตือนภัย ที่จะส่งเสียงดังกว่าคอนเสิร์ตร็อค และได้ยินไกลกว่า 800 เมตร หลังจากไฟป่าลุกลามรวดเร็วมาก และหลายคนต้องกระโดดลงทะเลเพื่อหนีเปลวไฟ
ด้านโฆษกสำนักงานบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉิน (ฟีม่า) ของรัฐฮาวาย ยืนยันเมื่อวันเสาร์ว่า ไซเรนเตือนภัยไม่ได้ถูกเปิด แต่ก็ย้ำว่า ไซเรนดังกล่าวไม่ใช่สัญญาณเตือนให้อพยพ แต่แจ้งให้ประชาชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมกับชี้แจงด้วยว่า ระบบเตือนภัยอื่นๆ ทำงานตามปกติ เช่น การส่งข้อความเตือนภัยผ่านทางโทรศัพท์มือถือ หรือ การแจ้งเตือนทางวิทยุและโทรทัศน์
แต่ในเมืองลาไฮนา เมืองประวัติศาสตร์เก่าแก่และเมืองตากอากาศยอดนิยม ที่กลายเป็นเถ้าถ่านเกือบทั้งเมือง ประสบปัญหาไฟดับหลังจากไฟป่าเริ่มลุกไหม้เมื่อวันอังคาร และชาวบ้านหลายคน บอกว่า ไม่ได้รับคำเตือนใดๆ
ขณะที่หัวหน้าหน่วยดับเพลิงเขตเมาวี เปิดเผยว่า นับจากไฟป่าเริ่มลุกไหม้ในลาไฮนา ทางหน่วยก็ไม่มีเวลาแจ้งเจ้าหน้าที่บริหารสถานการณ์ฉุกเฉินให้ออกคำสั่งอพยพ
ทั้งนี้ อัยการรัฐฮาวายประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า เริ่มเปิดการสอบสวนเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการตอบสนองต่อภัยพิบัติไฟป่าซึ่งจะทบทวนอย่างละเอียดเกี่ยวกับกระบวนการการตัดสินใจและนโยบายในการตอบสนองต่อไฟป่าตั้งแต่ช่วงที่ผ่านมา ระหว่างและหลังเกิดไฟป่าบนเกาะเมาวีและหมู่เกาะฮาวายในสัปดาห์นี้
ขณะที่มีรายงานว่า ไฟเริ่มลุกไหม้พุ่มไม้ในเมืองคูลา ห่างจากเมืองลาไฮนาเกือบ 56 กม. ช่วงหลังเที่ยงคืนเข้าสู่วันอังคาร และต่อมาในเวลา 15.30 น. ของวันอังคาร ทางเขตเมาวีแจ้งความคืบหน้าว่า ไฟป่าลามถึงเมืองลาไฮนา และชาวบ้านเริ่มอพยพออกจากบ้านเรือน ขณะที่ประชาชน รวมถึงแขกของโรงแรม ในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของเมืองได้รับแจ้งให้หลบภัยอยู่ในเคหะสถาน และในช่วงหลายชั่วโมง ทางเขตเมาวีโพสต์คำสั่งอพยพหลายครั้งอย่างต่อเนื่องผ่านเฟซบุ๊ก เมื่อไฟป่าลุกไหม้เข้าสู่เมืองลาไฮนา