"ฮามาส"ประกาศกร้าว เงื่อนไขเดียวในการปล่อยตัวประกัน "อิสรภาพแลกอิสรภาพ"

เนื่องจากสถานการณ์การสู้รบบระหว่าง "อิสราเอล-ปาเลสไตน์" ที่ยังไม่มีท่าทีสงบหรือจบลงได้ ซึ่งทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวไม่น้อย เพราะได้มีคนไทยโดนจับเป็นตัวประกันเพิ่มอีก 3 คน รวมทั้งหมดเป็น 22 คน ตามรายงานในสถานะการณ์วันที่ 29 ต.ค. 66  กระทรวงการต่างประเทศ แจ้งจำนวนผู้ได้รับผลกระทบและยืนยันได้แล้วว่า มีคนไทยเสียชีวิต 32 ราย (คงเดิม) บาดเจ็บ 19 ราย (คงเดิม) และถูกควบคุมตัว 22 ราย (เพิ่มขึ้น 3 ราย)

 

 เที่ยวบินที่อพยพจากอิสราเอล จะเดินทางมาถึงที่ไทยในวันที่ 30 ต.ค. 66 มีดังนี้ 

• เครื่องบินกองทัพอากาศ ถึง บน.6 เวลา 02.50 น. ผู้ลงทะเบียนจำนวน 140 คน 
• สายการบิน Lion Air (SL7001) ถึงดอนเมือง เวลา 08.40  น. จำนวนผู้ลงทะเบียน 180 คน
• สายการบิน Arkia (IZ591)  จำนวนผู้ลงทะเบียน 214 คน (รอยืนยันเวลาถึงสุวรรณภูมิ) 
• สายการบิน El Al ( LY083) จำนวนผู้ลงทะเบียน  310 คน (รอยืนยันเวลาถึงสุวรรณภูมิ)

หลายฝ่ายในประเทศไทยได้พยายามเตือนให้คนไทยในอิสราเอลกลับประเทศ เนื่องจากสถานการณ์ที่นั่นไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง 

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ มีรายงานจาก เว็บไซต์ไทม์สออฟอิสราเอล ระบุว่า ยาห์ยา ซินวาร์ (Yahya Sinwar) หัวหน้ากลุ่มติดอาวุธฮามาสในฉนวนกาซา ประกาศพร้อมเจรจาปล่อยตัวประกันทั้งหมดให้กับอิสราเอล "ในทันที"  โดยมีเงื่อนไขว่า จะต้องแลกกับนักโทษปาเลสไตน์ทั้งหมดที่ถูกทางการอิสราเอลคุมขังอยู่ 

 

"เราพร้อมที่จะดำเนินการเจรจาข้อตกลงแลกเปลี่ยนตัวโทษทันที ซึ่งรวมถึงการปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ทั้งหมดออกจากเรือนจำอิสราเอล เพื่อแลกกับนักโทษทุกคนที่กลุ่มต่อต้านชาวปาเลสไตน์ควบคุมตัวไว้"

แถลงการณ์ของ หัวหน้ากลุ่มติดอาวุธฮามาสในฉนวนกาซา 

 

ด้านโฆษกของกองทัพอิสราเอลกล่าวถึงแถลงการณ์ดังกล่าวขณะแถลงสรุปสถานการณ์รายวันว่า น่าจะเป็นเพียงสงครามประสาทจากฝั่งฮามาสเพื่อสร้างความหวาดกลัวเท่านั้น ขณะที่ปัจจุบัน ตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไว้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 230 คน

 

 

โดยสำนักข่าวซินหัวได้รายงานว่า อาบู โอไบดา โฆษกของกองพลน้อยอัล-กัสซัม (al-Qassam) ของกลุ่มติดอาวุธฮามาส ได้แถลงผ่านทางโทรทัศน์เมื่อวันเสาร์ที่ 28 ต.ค. ว่า พร้อมที่จะเจรจากับอิสราเอลเพื่อคลี่คลายปัญหาตัวประกัน

 

"หากอิสราเอลต้องการแก้ไขปัญหาให้จบในครั้งเดียว เราก็พร้อม หรือหากต้องการเจรจาหลายรอบ เราก็พร้อมเช่นกัน" 
อาบู โอไบดา โฆษกของกลุ่ม แถลงผ่านทางโทรทัศน์

 

นอกจากนี้ เขายังอ้างว่ามี "การติดต่อ" เกิดขึ้นเพื่อพยายามแก้ไขปัญหาตัวประกัน แต่อิสราเอลไม่ได้แสดงให้เห็นถึง "ความจริงจังอย่างแท้จริง" พร้อมกับเสริมว่าเงื่อนไขเดียวในการปล่อยตัวประกันคือ อิสราเอลต้องปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ทั้งหมด 

 

ขณะที่ รอยเตอร์สรายงานว่า การเจรจาระหว่างอิสราเอลและฮามาสซึ่งมี "กาตาร์" เป็นตัวกลาง เพื่อมุ่งเป้าไปที่การปล่อยตัวประกันและลดความรุนแรงของการสู้รบในฉนวนกาซานั้น ยังคงดำเนินต่อไปเมื่อวันเสาร์ (28 ต.ค.) แม้ว่าอิสราเอลเพิ่มความเข้มข้นในการโจมตีฉนวนกาซาก็ตาม   ทั้งนี้แหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า การเจรจายังไม่ได้ล้มเหลว แต่กำลังดำเนินไปอย่างล่าช้าลงมากกว่า ก่อนที่การสู้รบจะขยายตัวตั้งแต่เย็นวันศุกร์ (27 ต.ค.)

 

โดย กาตาร์ได้ดำเนินการด้านการทูตเบื้องหลังความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและฮามาสมานานกว่า 3 สัปดาห์แล้ว โดยพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของกลุ่มฮามาสและอิสราเอลเพื่อส่งเสริมสันติภาพและหาทางให้มีการปล่อยตัวประกันมากกว่า 200 คนที่กลุ่มฮามาสและกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ จับตัวไว้ในฉนวนกาซา ซึ่งการไกล่เกลี่ยของกาตาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนำไปสู่การปล่อยตัวประกันชาวอเมริกัน 2 คนซึ่งเป็นแม่และลูกสาว รวมถึงหญิงชราชาวอิสราเอล 2 คน ขณะที่นายเบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) นายกรัฐมนตรีของอิสราเอลกล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า ความพยายามที่จะให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันนั้นจะดำเนินต่อไป แม้ในระหว่างที่มีการรุกโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซาเพิ่มขึ้นก็ตาม

 

"เราจะทำทุกทางที่เป็นไปได้เพื่อนำพวกเขากลับบ้าน" ผู้นำอิสราเอลกล่าว