โดนใบสั่งเป็นหมื่น หนุ่ม"เกาหัว" ตอนขับรถ ถูกเข้าใจผิดว่าทำสิ่งนี้

20 กุมภาพันธ์ 2567

หนุ่มเนเธอร์แลนด์ ได้รับใบสั่งปรับเงินจำนวน 380 ยูโร (ประมาณ 14,000 บาท) หลังจากกล้องที่ขับเคลื่อนด้วย AI ตรวจจับได้ว่าเขากำลัง "คุยโทรศัพท์ขณะขับรถ" เเต่เเท้จริงเเล้วแค่ยกมือขึ้นมาเพื่อ "เกาหัว" เท่านั้น

โดนใบสั่งเป็นหมื่น หนุ่ม "เกาหัว" ตอนขับรถ ถูกเข้าใจผิดว่าทำสิ่งนี้ 

โดนใบสั่งเป็นหมื่น หนุ่ม\"เกาหัว\" ตอนขับรถ ถูกเข้าใจผิดว่าทำสิ่งนี้

ทิมบอกว่าในตอนที่ได้รับใบสั่งเขาตกใจมาก เพราะจำไม่ได้เลยว่าเคยใช้โทรศัพท์ตอนที่ขับรถอยู่บนท้องถนนในวันนั้น จึงตัดสินใจเดินทางไปขอตรวจสอบภาพถ่ายกับเจ้าหน้าที่ และต้องยอมรับว่าเมื่อมองแวบแรก ในภาพดูเหมือนว่าเขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่จริงๆ แต่เมื่อมองชัดๆ ก็จะเห็นว่าเขาไม่ได้ถืออะไรอยู่ในมือเลย เพียงแค่เกาด้านข้างของศีรษะเท่านั้น แล้วกล้องก็เข้าใจผิดว่ามือของเขาถือโทรศัพท์อยู่ สิ่งที่น่าสับสนยิ่งกว่านั้นก็คือ มนุษย์ที่ตรวจสอบภาพถ่ายและยืนยันออกใบสั่ง ก็ไม่ได้ตรวจพบ “ผลบวกลวง” เช่นกัน

ที่น่าบังเอิญคือทิมทำงานด้านไอที เขาจึงตัดสินใจสร้างอัลกอริธึมที่แก้ไขและวิเคราะห์ภาพ ใช้ประสบการณ์ส่วนตัวของเขาเพื่ออธิบายว่าระบบกล้องตำรวจทำงานอย่างไร และเหตุใดจึงทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ “แบบจำลองต้องคาดเดาว่าบางสิ่งคือ 'ใช่' หรือ 'ไม่ใช่' เท่านั้น แต่การทำนายที่ถูกต้อง 100% นั้นหาได้ยาก อัลกอริธึมอาจสงสัยว่ามีโทรศัพท์อยู่ เนื่องจากชุดข้อมูลมีตัวอย่างมากมายที่ใช้โทรศัพท์โดยยกมือแนบข้างหู”
 

โดนใบสั่งเป็นหมื่น หนุ่ม\"เกาหัว\" ตอนขับรถ ถูกเข้าใจผิดว่าทำสิ่งนี้

 

 

ทิมชี้ว่าเนื่องจากมีตัวแปรมากมายที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจของอัลกอริทึม จึงจำเป็นต้องมีตัวกรองโดยมนุษย์ เพื่อลดจำนวนผลบวกลวงให้เหลือน้อยที่สุด ยกตัวอย่างเช่นในกรณีของเขาเองนี้ ได้โต้แย้งการปรับโทษไปแล้ว แต่ต้องรอถึง 26 สัปดาห์สำหรับการตัดสินอย่างเป็นทางการ
 

 

เคสของทิมกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในเนเธอร์แลนด์ และประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เบลเยียม ซึ่งสถาบันบางแห่งขอให้ติดตั้งกล้องที่สามารถตรวจจับการใช้โทรศัพท์มือถือในขณะขับรถได้ แต่เรื่องราวของทิมพิสูจน์ให้เห็นว่ากล้องเหล่านี้ยังห่างไกลจากความน่าเชื่อถือ 100%