โดนใบสั่งเป็นหมื่น หนุ่ม "เกาหัว" ตอนขับรถ ถูกเข้าใจผิดว่าทำสิ่งนี้
ทิมบอกว่าในตอนที่ได้รับใบสั่งเขาตกใจมาก เพราะจำไม่ได้เลยว่าเคยใช้โทรศัพท์ตอนที่ขับรถอยู่บนท้องถนนในวันนั้น จึงตัดสินใจเดินทางไปขอตรวจสอบภาพถ่ายกับเจ้าหน้าที่ และต้องยอมรับว่าเมื่อมองแวบแรก ในภาพดูเหมือนว่าเขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่จริงๆ แต่เมื่อมองชัดๆ ก็จะเห็นว่าเขาไม่ได้ถืออะไรอยู่ในมือเลย เพียงแค่เกาด้านข้างของศีรษะเท่านั้น แล้วกล้องก็เข้าใจผิดว่ามือของเขาถือโทรศัพท์อยู่ สิ่งที่น่าสับสนยิ่งกว่านั้นก็คือ มนุษย์ที่ตรวจสอบภาพถ่ายและยืนยันออกใบสั่ง ก็ไม่ได้ตรวจพบ “ผลบวกลวง” เช่นกัน
ที่น่าบังเอิญคือทิมทำงานด้านไอที เขาจึงตัดสินใจสร้างอัลกอริธึมที่แก้ไขและวิเคราะห์ภาพ ใช้ประสบการณ์ส่วนตัวของเขาเพื่ออธิบายว่าระบบกล้องตำรวจทำงานอย่างไร และเหตุใดจึงทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ “แบบจำลองต้องคาดเดาว่าบางสิ่งคือ 'ใช่' หรือ 'ไม่ใช่' เท่านั้น แต่การทำนายที่ถูกต้อง 100% นั้นหาได้ยาก อัลกอริธึมอาจสงสัยว่ามีโทรศัพท์อยู่ เนื่องจากชุดข้อมูลมีตัวอย่างมากมายที่ใช้โทรศัพท์โดยยกมือแนบข้างหู”
ทิมชี้ว่าเนื่องจากมีตัวแปรมากมายที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจของอัลกอริทึม จึงจำเป็นต้องมีตัวกรองโดยมนุษย์ เพื่อลดจำนวนผลบวกลวงให้เหลือน้อยที่สุด ยกตัวอย่างเช่นในกรณีของเขาเองนี้ ได้โต้แย้งการปรับโทษไปแล้ว แต่ต้องรอถึง 26 สัปดาห์สำหรับการตัดสินอย่างเป็นทางการ
เคสของทิมกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางในเนเธอร์แลนด์ และประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เบลเยียม ซึ่งสถาบันบางแห่งขอให้ติดตั้งกล้องที่สามารถตรวจจับการใช้โทรศัพท์มือถือในขณะขับรถได้ แต่เรื่องราวของทิมพิสูจน์ให้เห็นว่ากล้องเหล่านี้ยังห่างไกลจากความน่าเชื่อถือ 100%