กำลังเป็นที่สนใจอย่างมากในอินเตอร์เน็ตทั่วโลก เมื่อสื่อใหญ่ในอินเดีย รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอินเดียทำการจับกุมชาย 3 คน และอยู่ระหว่างตามล่าผู้สมรู้ร่วมคิดอีก 4 คน หลังก่อเหตุรุมทำร้ายคู่รักนักท่องเที่ยวชาวสเปนและล่วงเกินขืนใจฝ่ายหญิง ในพื้นที่ป่าของเมืองดุมกะ รัฐฌารขัณฑ์ ทางตะวันออกของอินเดีย ระหว่างตระเวนเดินทางท่องเที่ยวประเทศแถบเอเชียใต้
ตามรายงานเผยว่า เหยื่อซึ่งประกอบด้วยสามีวัย 64 ปี และภรรยาวัย 30 ปี ซึ่งเป็นบล็อกเกอร์สายท่องเที่ยวที่มีผู้ติดตามในอินสตาแกรมกว่า 3 แสนฟอลโลเวอร์ ทั้งคู่อยู่ระหว่างตระเวนเที่ยวประเทศแถบเอเชียใต้โดยรถจักรยานยนต์ พร้อมบันทึกภาพการเดินทางมาโพสต์ให้แฟนๆ ได้ติดตามกัน พวกเขาเดินทางผ่านปากีสถานและบังคลาเทศมาแล้ว และอยู่ระหว่างทัวร์ประเทศที่ 3 คืออินเดีย ซึ่งมีจุดหมายต่อไปคือเนปาล
จนเมื่อเวลาประมาณ 17:00 น. วันที่ 1 มีนาคม 2567 คู่สามีภรรยาที่มาถึงเมืองดุมกะ และตั้งเต็นท์พักแรมในพื้นที่ป่า แต่กลับถูกชาย 7 คนเข้ามาทำร้ายบริเวณใกล้ๆ เต็นท์ โดยมีการทุบตีทำร้ายสามี และผลัดกันล่วงละเมิดทางเพศภรรยา ก่อนจะหลบหนีไปโดยขโมยเอาทรัพย์สินบางส่วนไปด้วย
กระทั่งเวลาประมาณ 23:00 น. ทีมลาดตระเวนจากสถานีตำรวจในละแวกได้ไปพบเหยื่อบริเวณถนนใกล้ๆ จุดตั้งเต็นท์ ฝ่ายหญิงพยายามใช้โปรแกรมแปลภาษาเพื่อเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ตำรวจฟัง ทางตำรวจจึงพาทั้ง 2 คนไปยังศูนย์สุขภาพชุมชนซาไรยาฮัต ซึ่งแพทย์ยืนยันว่ามีการล่วงละเมิดเกิดขึ้น
ด้านผู้กำกับการตำรวจเมืองดุมกะ กล่าวกับนักข่าวว่า ตำรวจพบตัวคู่รักนี้ในเวลาประมาณ 23:00 น. วันที่ 1 มีนาคม บริเวณข้างถนน ดูเหมือนพวกเขาจะถูกทำร้าย ทีมลาดตระเวนสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น แต่เนื่องจากคู่รักพูดภาษาสเปน ตำรวจไม่เข้าใจสิ่งที่ต้องการสื่อ จากนั้นจึงพาตัวพวกเขาไปโรงพยาบาลในพื้นที่
ขณะเดียวกัน ผู้กำกับการตำรวจเมืองดุมกะไม่ได้เผยรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับอาชญากรรม ตัวตนของเหยื่อ หรือแม้กระทั่งข้อกล่าวหาที่จะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ บอกเพียงว่าผู้ต้องหาที่ถูกจับยอมให้การรับสารภาพ รวมถึงหนึ่งในนั้นได้บอกชื่อของผู้ก่อเหตุที่เหลือมาแล้ว พบว่าผู้ก่อเหตุมีอายุระหว่าง 20-30 ปี
แต่คดีนี้กลายมาเป็นที่สนใจระดับนานาชาติ เมื่อคู่สามีภรรยาที่ถูกทำร้าย ออกมาอัดคลิปเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยตัวเองผ่านทางอินสตาแกรมของพวกเขา โดยยืนยันว่าแรงจูงใจหลักของคนร้ายคือการล่วงละเมิดทางเพศฝ่ายหญิง "พวกนั้นทุบตีและปล้นเรา แม้เราจะมีข้าวของไม่มากนัก เพราะสิ่งที่คนพวกนั้นต้องการก็คือการขืนใจฉัน" เหยื่อสาวกล่าวในคลิป
ขณะเดียวกัน หญิงผู้เสียหายยังให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์สเปน ชี้ว่า ผู้ก่อเหตุรุมทุบตีสามีของเธอซ้ำๆ และผลัดกันล่วงเกินเธอ โดยมีคนอื่นๆ เฝ้าดู ตลอดระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ส่วนสาเหตุที่พวกเขาเลือกไปตั้งแคมป์พักแรมนั้น เนื่องจากไม่พบโรงแรมบริเวณใกล้เคียง
ด้านศัลยแพทย์พลเรือนในเมืองดุมกะ เผยกับสื่ออินเดียว่า หญิงผู้เสียหายกับสามีได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลและวิทยาลัยแพทย์ Phulo Jhano โดยทั้งคู่ขี่รถมอเตอร์ไซค์มายังโรงพยาบาลเอง หลังตรวจร่างกายเบื้องต้นที่ศูนย์สุขภาพชุมชน และมีตำรวจให้การคุ้มกัน ขณะนี้ทั้งคู่พ้นจากอันตรายแล้วและยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล
ฝ่ายชายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนการตรวจร่างกายของเหยื่อจะดำเนินการโดยคณะกรรมการแพทย์ ซึ่งประกอบด้วย นรีแพทย์ 3 คน นักรังสีวิทยา แพทย์ออร์โธปิดิกส์ และทันตแพทย์ โดยมีผู้อำนวยการวิทยาลัยการแพทย์เป็นหัวหน้าคณะ
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศของสเปนได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว โดยยืนยันว่ามีการติดต่อกับทางการอินเดีย และจะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งทางการสเปนพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือทั้งคู่ทุกทาง
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ยังนำมาซึ่งความขัดแย้งทางการเมืองภายในรัฐ เมื่อมีนักการเมืองในสภาท้องถิ่นหยิบประเด็นนี้ขึ้นมากล่าวถึง โดยกล่าวหาตำรวจว่ามีความพยายามปกป้องผู้ต้องหา พร้อมเรียกร้องให้ระงับการทำงานของผู้กำกับการตำรวจในเมืองดุมกะ และจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวน รวมถึงเรียกร้องให้มีการลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด
ข้อมูลจาก Hindustan Times, และ The Straits Times