ใครที่กำลังติดหูฟังชนิดที่ถอดออกไม่ได้ต้องรีบดูเรื่องนี้ด่วน เนื่องจากในต่างประเทศมีเรื่องราวอุทาหรณ์เตือนภัยจากหญิงสาวชาวจีนรายหนึ่ง จู่ๆ เกิดอาการผิดปกติเกี่ยวกับการได้ยิน หลายครั้งเวลาประชุม เมื่อหัวหน้าของเธอกระซิบคำพูดที่หู แต่เธอจะไม่ได้ยิน จึงกลัวว่าจะมีปัญหากับการทำงาน จึงตัดสินใจมาพบแพทย์
หญิงสาวคนดังกล่าวทำงานเป็นเลขานุการให้กับบริษัทท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ในมณฑลซานตง ประเทศจีน ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้เธอได้เข้าไปขอรับการรักษาที่โรงพยาบาล ภายหลังจากพบว่ามีอาการผิดปกติเกี่ยวกับการได้ยิน เพราะเมื่อถึงเวลาประชุม เธอมักจะไม่ได้ยินคำพูดที่หัวหน้ากระซิบบอกในหลายๆ ครั้งในที่ประชุม
หลังจากการตรวจเช็กโดยละเอียด แพทย์ได้วินิจฉัยว่า เหตุที่คนไข้ไม่ได้ยินเสียงของเจ้านายก็เป็นเพราะว่า ระบบประสาทหูข้างซ้ายที่เกี่ยวข้องกับการได้ยินได้รับความเสียหายถาวร และจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยฟัง
ด้วยเหตุนี้แพทย์จึงสอบถามว่าเธอเคยได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่หูหรือไม่ ซึ่งคำตอบของเธอคือไม่เคย แต่หลังจากซักประวัติและสืบพฤติกรรมของคนไข้ ทำให้ทราบถึงต้นตอนั่นก็คือ การใส่หูฟังนอนฟังเพลงทุกคืนติดต่อกันเป็นเวลานานถึง 2 ปี
คนไข้สาวเล่าว่า "ตั้งแต่ตอนที่ฉันเรียนมหาวิทยาลัย ฉันชอบใส่ฟูฟังเปิดเพลงให้นอนหลับ แล้วก็หลับไปทั้งที่ใส่หูฟังเช่นนั้นทั้งคืน จนมันกลายเป็นนิสัยไปแล้ว และฉันก็ทำแบบนี้มาประมาณ 2 ปี"
ด้าน ดร.หลี่ เถา ผู้อำนวยการภาควิชาแพทยศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยและรักษาความผิดปกติของหู ประจำโรงพยาบาลดังกล่าว เผยว่า สาเหตุหลักของการสูญเสียการได้ยินของนางสาวหวัง เป็นผลมาจากการฟังเพลงผ่านหูฟังทุกคืน แม้ว่าระดับเสียงจะไม่ได้ดังเกินไป แต่เซลล์ประสาทหูถูกรบกวนเป็นเวลานาน จึงทำให้เกิดความเสียหายต่อการได้ยินอย่างถาวรในที่สุด
ทั้งนี้ไม่รู้ว่าจะนับเป็นโชคดีได้หรือไม่สำหรับหญิงสาวรายนี้ เมื่อหูขวาของเธอยังมีความสามารถในการได้ยินเป็นปกติ มีเพียงหูซ้ายข้างเดียวที่ได้รับความเสียหาย และความเสียหายที่ได้รับนั้นก็ยังไม่ถึงระดับที่รุนแรงมาก ทำให้ยังสามารถใช้อุปกรณ์ช่วยฟังได้
อย่างไรก็ตาม ดร.หลี่ กล่าวเสริมอีกว่า คนหนุ่มสาวในปัจจุบันส่วนใหญ่มีนิสัยติดใส่หูฟัง จึงขอให้คำแนะนำหลักๆ ได้แก่ พยายามอย่าให้หูของเราได้ยินเสียงระดับเสียงเกิน 60 เดซิเบลเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะใส่หูฟังหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง ไม่ควรให้นานเกิน 60 นาที และเมื่อฟังเพลงหรือเสียงจากอุปกรณ์ต่างๆ อย่าปรับเร่งระดับเสียงให้เกิน 60 เปอร์เซ็นต์
ข้อมูลจาก Odditycentral และ ETtoday