สาวสารภาพบาป ไม่อยากให้แม่มีชีวิตอยู่ เพราะแม่รักลูกชายมากกว่า

ในโลกออนไลน์กำลังให้ความสนใจกับ คำสารภาพบาปที่น่าตกใจที่รายงานผ่านสื่อดังจากต่างประเทศ ที่เกิดขึ้นกับหญิงมาเลเซียรายหนึ่งซึ่งแต่งงานมีครอบครัวแล้ว ซึ่งเธอได้ออกมาโพสต์ระบายความอัดอั้นใจเกี่ยวกับเรื่องที่เธอต้องให้เงินแม่ใช้ทุกๆ เดือน ซึ่งคิดเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 20% ของรายได้ และนี่ยังไม่ยอมค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เธอต้องจ่ายให้แม่เช่นกัน

 

 

เธอระบุว่า "บางครั้งฉันต้องซื้อของใช้ในชีวิตประจำวันให้เธอ รวมถึงสกินแคร์ แม้กระทั่งจ่ายเงินให้เธอไปเที่ยวต่างประเทศ โดยสามีช่วยดูแลเรื่องการเงินให้ฉันแทน รวมถึงค่าใช้จ่ายของลูกๆ เราด้วย"

 

ช่วงแรกความรับผิดชอบแบบนี้ไม่ได้สร้างปัญหาให้เธอ แต่เมื่อเวลาผ่านไปภาระก้อนนี้ก็เริ่มส่งผลเสียต่อเธอมากขึ้น ทั้งด้านการเงินรวมถึงอารมณ์ความรู้สึก จนจุดหนึ่งทำให้เธอแอบหวังว่าแม่จะมีชีวิตอยู่ไม่ยืนนัก
 

ทั้งนี้ หญิงสาวคนดังกล่าว มีพี่น้องหลายคน เผยว่า มักจะเป็นเธอและน้องสาวเสมอที่ต้องให้เงินแม่ใช้ทุกเดือน แต่สิ่งที่ไม่ยุติธรรมของชีวิตก็คือ ในขณะที่เธอกับน้องสาวช่วยเหลือแม่เรื่องเงินตลอด แต่แม้กลับรักพวกน้องชายมากกว่า ทั้งที่พวกนั้นไม่เคยออกเงินใดๆ ทั้งสิ้น
 

 

"ฉันให้เงินแม่ทุกเดือน 150 ริงกิต (หรือประมาณ 1,400 บาท) ทั้งๆ ที่ฉันหาเงินได้แค่ 1,600 ริงกิต (ราว 12,000 บาท) แต่แม่ยังบอกฉันว่าเงินนั่นไม่ได้มากอะไรขนาดนั้น ฉันไม่มีวันลืมความเจ็บปวดเหล่านั้นเลย" ลูกสาวเผย พร้อมเล่าว่าไม่นานมานี้เธอเพิ่งพาแม่ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เพราะแม่บอกว่ารู้สึกไม่สบาย ตอนนั้นเองที่เธอรู้สึกตัวถึงเรื่องหนึ่ง

 

"ฉันแอบหวังว่าแม่จะมีชีวิตไม่ยืน ฉันจะได้หยุดจ่ายให้ทุกอย่าง และได้ใช้จ่ายในสิ่งที่ฉันอยากได้มาโดยตลอดสักที ทั้งรถ ที่ๆ อยากไป และกระเป๋าถือที่ชอบ"

 

อย่างไรก็ตาม เธอยังย้ำว่าไม่รู้สึกแม้แต่น้อยที่คิดแบบนี้ เพราะเธอรู้ดีว่าตัวเองทำทุกอย่างที่ทำได้แล้วเพื่อดูแลแม่ของเธอ แต่ถึงอย่างนั้นนี่ก็คือชีวิตจริง ที่ยิ่งคุณทำให้เท่าไหร่ก็ยิ่งถูกเมินเฉยมากเท่านั้น แม้แต่กับแม่ของตัวเอง และสามีของเธอก็เริ่มบ่นแล้วว่าเขาไม่พอใจเรื่องแม่ของเธอ ซึ่งเธอไม่โทษเขาเลยสักนิด

ข้อมูลจาก World of Buzz