3 เวลาที่ไม่ควรแปรงฟัน อย่าคิดว่ามันสะอาด แต่มันทำสภาพฟันแย่ลง

หลายคนอาจจะคิดการแปรงฟันบ่อยๆ มันเป็นเรื่องที่ดีแต่ขอเบรคไว้ตรงนี้ก่อนเลย เพราะการแปรงฟันนั้นดีจริงๆ แต่การแปรงฟันที่ไม่ถูกเวลาก็อาจจะเกิดผลเสียให้กับสุขภาพช่องปากให้เราได้เช่นกัน ซึ่งล่าสุด ทันตแพทย์ชาวอังกฤษ ได้ออกมาเตือน 3 ช่วงเวลาที่ไม่ควรแปรงฟัน เพราะการแปรงฟันผิดเวลามีแต่จะทำให้สภาพฟันแย่ลง

โดยคุณหมอซาดี (Shaadi Manouchehri) ทันตแพทย์ชาวลอนดอน ได้โพสต์คลิปวิดีโอแนะนำ 3 ช่วงเวลาที่ควรหลีกเลี่ยงการแปรงฟัน คือ 1. หลังอาหารเช้า 2. หลังอาเจียน และ 3. หลังจากเพลิดเพลินกับขนมหวาน เพราะหากแปรงฟันทันทีหลังจากทำสิ่งข้างต้นที่กล่าวมา อาจทำให้เคลือบฟันเสียหายร้ายแรงได้

คุณหมอซาดี อธิบายเพิ่มเติมอีกว่า สิ่งที่อยู่ในกระเพาะมีความเป็นกรดมาก และปากก็มีสภาพเป็นกรดหลังรับประทานอาหารด้วยเช่นกัน เมื่อแบคทีเรียในปากสลายน้ำตาลในอาหารจะเกิดสารที่เป็นกรดขึ้นมา สารที่เป็นกรดเหล่านี้จะละลายพื้นผิวของฟัน และยังเป็นต้นเหตุของการเริ่มฟันผุด้วย

พร้อมกันนี้ คุณหมอซาดี ยังบอกอีกว่า การแปรงฟันหลังทานอาหารเช้า ไม่ใช่ความคิดที่ดี เนื่องจากช่องปากในเวลานี้อยู่ในสภาวะที่เป็นกรด หากแปรงฟันทันทีสารที่เป็นกรดจะเสียดสีกับผิวฟัน และทำให้ฟันที่ประกอบด้วยแร่ธาตุเกิดการสึกหรอ

ส่วนข้อแนะนำคือ หลังจากรับประทานของหวาน แนะนำให้รออย่างน้อย 1 ชั่วโมง แล้วค่อยแปรงฟัน เพื่อหลีกเลี่ยงสารที่เป็นกรดที่เกิดจากการสลายตัวของน้ำตาล ไม่ให้แพร่กระจายไปทั่วช่องปาก และเสียดสีกับฟันจนอาจทำให้เคลือบฟันเสียหายได้ อีกทั้งยังเสี่ยงต่อฟันผุอีกด้วย

ขณะเดียวกัน ข้อมูลของ NHS ระบุว่า อาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นสาเหตุหลักของฟันผุ มักเกิดจากการสะสมของแบคทีเรียเหนียวที่เรียกว่าคราบพลัค ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปจะทำลายผิวฟัน ทำให้เกิดหลุมและมีจุดสีขาว สีน้ำตาล หรือสีดำ และยังมีลักษณะพิเศษคืออาการปวดฟัน และปวดอย่างรุนแรงเมื่อสัมผัสกับอาหารหรือขนมหวานที่ร้อนหรือเย็นจัด

ข้อมูลจาก dailymail
ภาพจาก dr.shaadi.manouchehri