กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในโลกออนไลน์ หลังจากที่สื่อต่างประเทศได้รายงานเคสของหญิงชาวจีน ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงปักกิ่ง ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง อีกทั้งพ่อของเธอก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ด้านพี่ชายของเธอเสียชีวิตด้วยเนื้องอกในสมอง แถมสามีของเธอเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย และเธอป่วยเป็นมะเร็งปอด
ตามรายงานระบุว่า ครอบครัวของหญิงรายนี้มีชีวิตที่ปกติและดูแลสุขภาพมาเป็นอย่างดี ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมเธอถึงเป็นมะเร็ง และเพื่อค้นหาสาเหตุ คุณหมอจึงได้ทำการทดลองจำนวนมาก และในที่สุดก็ค้นพบสารก่อมะเร็งที่มีฤทธิ์รุนแรงอย่าง "อะฟลาทอกซิน" บนเขียงที่ครอบครัวของเธอใช้
โดยผู้เชี่ยวชาญยังชี้ให้เห็นว่า ครอบครัวของของหญิงรายดังกล่าวใช้ตะเกียบไม้ไผ่และเขียงไม้มานานแล้ว ซึ่งการผสมอาหารดิบและอาหารปรุงสุก โดยไม่ได้ทำความสะอาด ตากให้แห้ง และเปลี่ยนเป็นประจำ ซึ่งก่อให้เกิดสารพิษ อะฟลาทอกซิน ที่อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงได้
ปัจจุบันมีครอบครัวที่ป่วยมะเร็ง เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนเชื่อว่ามะเร็งในทั้งครอบครัวอาจเป็นกรรมพันธุ์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว หลายๆ คนป่วยเพียงเพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งในชีวิตประจำวันของเรา เราอาจต้องเผชิญกับสารพิษจากเชื้อราประมาณ 300 ชนิด ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีฤทธิ์หรือเป็นพิษ
สำหรับ อะฟลาทอกซิน จัดอยู่ในกลุ่มสารก่อมะเร็งชนิดที่ 1 ซึ่งองค์การอนามัยโลก ระบุว่า มันมีความเป็นพิษมากกว่าสารหนูถึง 68 เท่า เป็นพิษมากกว่าโพแทสเซียมไซยาไนด์ถึง 10 เท่า เพียง 1 มิลลิกรัม ก็ก่อให้เกิดมะเร็งได้ และเสียชีวิตได้โดยตรง ถ้าถึง 20 มิลลิกรัม อีกทั้ง อะฟลาทอกซินไม่มีกลิ่น ไม่มีรส และไม่มีสี
ทั้งนี้ อุณหภูมิในการทำลายอะฟลาทอกซินอยู่ที่ 280 องศาเซลเซียส ดังนั้นวิธีการปรุงและแปรรูปแบบเดิม ๆ จึงไม่สามารถทำลายความเป็นพิษของสารพิษนี้ได้ นอกจากนี้ สารพิษนี้ยังซ่อนตัวได้ง่ายในพื้นที่อยู่อาศัย เช่น ห้องครัวและห้องน้ำ
อย่างไรก็ตาม สารเมตาบอไลต์ของเชื้อรามีอุณหภูมิการสืบพันธุ์อยู่ที่ 28-38 องศา พวกมันชอบความชื้นและโดยทั่วไปจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า หลังจากพิษอะฟลาทอกซิน ผู้ป่วยจะมีอาการตับอักเสบ เช่น อาเจียน เบื่ออาหาร มีไข้ น้ำในช่องท้อง กรณีรุนแรงอาจเกิดมะเร็งตับได้
ข้อมูลจาก docnhanh.vn