สลด "คู่รักบล็อกเกอร์" ผัวถูกน้ำซัด เมียกระโดดช่วย สุดท้ายจมหายทั้งคู่

เกิดเหตุสลด "คู่รักบล็อกเกอร์" เสียชีวิตระหว่างการผจญภัย โดยเว็บไซต์ต่างประเทศ South China Morning Post รายงานข่าวเศร้า คู่รักบล็อกเกอร์สายท่องเที่ยว เสียชีวิตขณะกำลังท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างไปปีนเขากับเพื่อน โดยสามีพลัดตกลงไปในแม่น้ำที่มีกระแสน้ำเชี่ยวกราก ภรรยาพยายามกระโดดลงไปช่วย แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ถูกน้ำซัดหาย ก่อนพบร่าง 2 ศพ ยังสวมเสื้อชูชีพ

 ตามรายงานระบุว่า ผู้เสียชีวิตคือหญิงชาวจีน อายุ 35 ปี เป็นที่รู้จักบนโซเชียลในชื่อ "อากู" (Agu) ขณะที่สามีเป็นชาวญี่ปุ่น อายุ 41 ปี ซึ่งทั้งคู่เป็นคนที่ชื่นชอบกิจกรรมท่องเที่ยวกลางแจ้ง และทำคอนเทนต์การเดินทางร่วมกัน

จนกระทั่งวันเกิดเหตุ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งคู่ได้ไปปีนเขาในจังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับเพื่อน ซึ่งในโดยระหว่างปีนเขานั้น ฝ่ายสามีได้ลงไปในแม่น้ำที่มีน้ำเอ่อล้น ก่อนร่างของเขาได้ถูกกระแสน้ำพัดต่อหน้าเพื่อนร่วมทริป ภรรยาจึงได้โยนเชือกยาว 100 เมตรลงไปให้เขา ซึ่งสามีพยายามว่ายน้ำข้ามไปยังอีกฝั่งเพื่อนำเชือกไปผูกกับอะไรสักอย่าง ก่อนจะถูกกระแสซ้ำกลืนร่างหายไป

เมื่อภรรยาเห็นท่าไม่ดี จึงรีบตัดสินใจกระโดดน้ำลงตามไปช่วยสามี แต่เนื่องจากแม่น้ำมีความกว้างประมาณ 80 เมตร ลึก 20 เมตร จากฝนตกหนักเมื่อวันก่อน ทำให้เธอก็ถูกกระแสน้ำซัดหายไปเช่นกัน 

ด้านเพื่อนที่ไปด้วยกัน ได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือ ภายหลัง 5 ชั่วโมงต่อมา ก็ได้พบร่างของทั้งคู่ที่ยังคงสวมเสื้อชูชีพ ลอยอยู่ไกลออกไป 300 เมตร หลังจากนำส่งโรงพยาบาล ก็มีการเปิดสาเหตุการเสียชีวิตทั้งคู่นั้นเกิดจากการจมน้ำ 

 อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่เพิ่งแต่งงานกันเมื่อเดือน ก.พ. 2566 โดยฝ่ายชายยังเขียนข้อความผ่านโซเชียล เขาเลือกภูเขาเป็นเหมือนงานอดิเรกชั่วชีวิต ตอนนี้เขาเลือกที่จะปีนเขากับคนรัก และหวังว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นการผจญภัยที่มีความสุข

และก่อนจะเกิดเหตุเพียง 1 วัน ฝ่ายสามีได้โพสต์ภาพบนอินสตาแกรมเป็นครั้งสุดท้าย โดยเป็นภาพของเขาและภรรยาพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมบนซุ้มประตูหินโซโตโมะ อ่าวโอบามะ จังหวัดฟุคุอิ

จากเหตุการณ์คู่รักบล็อกเกอร์สายท่องเที่ยวเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจมน้ำระหว่างการผจญภัยครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงอันตรายของการท่องเที่ยวเชิงผจญภัย และเป็นการเตือนใจให้ทุกคนควรศึกษาข้อมูล เตรียมพร้อม และระมัดระวังอย่างเต็มที่ก่อนออกเดินทาง

ขอบคุณ South China Morning Post  , IG : @tbs0412