เจ้านายอยากขึ้นเงินเดือนให้แม่บ้าน แต่โดนปฏิเสธ สงสัยกระทั่งเห็นที่อยู่

10 สิงหาคม 2567

เจ้านาย 2 สามีภรรยาอยากขึ้นเงินเดือนให้แม่บ้าน แต่โดนปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย ทนสงสัยมานานก่อนได้เห็นที่อยู่อาศัยของลูกจ้าง

ไม่เลือกงานไม่ยากจน แต่ไม่แน่ว่าคนที่ทำงานธรรมดาๆ จะยากจนเสมอไป เช่นเดียวกับแม่บ้านรายนี้ ที่คู่สามีภรรยารายหนึ่งซึ่งเป็นเจ้านายตัดสินใจจะขึ้นเงินเดือนให้กับเธอ ทว่าเธอกลับปฏิเสธไม่อยากได้เงินเดือนที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ทำเอาผู้เป็นเจ้านายแปลกใจ แต่ก็ร้องอ๋อในภายหลัง

 

เจ้านายอยากขึ้นเงินเดือนให้แม่บ้าน แต่โดนปฏิเสธ สงสัยกระทั่งเห็นที่อยู่

เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในประเทศเวียดนาม คู่สามีภรรยาซึ่งเป็นเจ้านาย ได้เรียกแม่บ้านวัย อายุ 50 กว่าปี มาคุยเรื่องเงินเดือน หลังจากเห็นว่าดูแลลูกและทำงานบ้านเป็นอย่างดี แต่กลับถูกอีกฝ่ายปฏิเสธอย่างไม่ไยดี ก่อนจะได้ทราบเหตุผลในเวลาต่อมา ว่าที่แท้แล้วแม่บ้านรายนี้ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินแต่อย่างใด แต่มาทำงานเพราะความเหงา


โดยฝ่ายภรรยา เล่าว่า เธอและสามีแต่งงานกันมาได้ 4 ปีแล้ว หลังจากที่เศรษฐกิจเริ่มทรงตัว ก็เริ่มวางแผนมีลูก ก่อนหน้านั้นทั้งสองครอบครัวกระตุ้นให้มีลูกโดยบอกให้คลอดบุตรเร็วๆ แล้วปู่ย่าตายายก็จะดูแลหลาน แต่เมื่อเธอตั้งครรภ์กระทั่งคลอด พ่อแม่ก็ไม่มีใครช่วยเธอได้เพราะพวกเขาแก่มากแล้ว และป่วยบ่อย


หลังลาคลอดเธอต้องกลับไปทำงานและไม่มีเวลาดูแลลูก เธอและสามีจึงตัดสินใจจ้างแม่บ้านมาดูแลลูกและทำความสะอาดบ้าน แต่รับแม่บ้านมาแล้ว 2 คน ก็ต้องเปลี่ยน เพราะยังหาใครเหมาะสมไม่ได้ สามีแนะนำให้เธอจู้จี้จุกจิกน้อยลง เพราะจะไม่มีใครกล้ามาทำงานด้วย แต่เธอคิดว่าถ้าเสียเงินแล้วก็ต้องหาคนที่ตั้งใจทำงานและขยัน


จากการค้นหามาสักพัก ในที่สุดเธอก็พบแม่บ้านคนใหม่ อายุ 50 กว่าปีแล้ว หลังจากทดลองงานได้ไม่กี่วัน ก็เห็นว่าอีกฝ่ายทำงานหนัก เรียบร้อย พูดจาไพเราะ และรู้วิธีดูแลเด็ก ก็เลยจ้างให้ทำงานต่อ
 

เจ้านายอยากขึ้นเงินเดือนให้แม่บ้าน แต่โดนปฏิเสธ สงสัยกระทั่งเห็นที่อยู่

แม่บ้านรายนี้ไม่เพียงดูแลลูกของเธออย่างดีเท่านั้น แต่ทุกวันยังช่วยทำความสะอาดบ้านและเตรียมอาหารอีกด้วย บางครั้งลูกของเธอก็ร้องไห้ตอนกลางคืนและเธอไม่สามารถปลอบให้หยุดร้องได้ แต่ทันทีที่แม่บ้านรายนี้มาดู ลูกก็หยุดร้องทันที นั่นเป็นเหตุผลที่เธอรู้สึกโชคดีมากที่ได้พบแม่บ้านรายนี้


ต่อมาเมื่อเห็นว่าแม่บ้านทุ่มเทให้กับงาน เธอและสามีจึงตัดสินใจเพิ่มเงินเดือนให้อีก 3 ล้านดองต่อเดือน หรือราวๆ ประมาณ 4,200 บาท แต่แม่บ้านรายนี้ปฏิเสธอย่างแน่วแน่ และบอกว่าเธอกับสามีปฏิบัติดีด้วยก็ทำให้เขามีความสุขแล้ว ส่วนเงินเดือนก็ต้องการแค่เต็มจำนวนเหมือนเมื่อก่อน หลังจากที่ได้ฟังแล้ว เธอและสามีรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับความมีน้ำใจของแม่บ้านรายนี้


ต่อมาระหว่างกินข้าวเย็นในวันหนึ่ง จู่ๆ แม่บ้านรายนี้ก็โชว์รูปบ้านพร้อมสวนกว้างขวางให้เธอดู และถามว่าเธอกับสามีรู้สึกอย่างไรกับบ้านแห่งนี้? ซึ่งเธอก็ชมว่าสวยมาก น่าจะหลายล้าน ไม่รู้ว่าเมื่อไรกับสามีจะได้ซื้อบ้านแบบนี้ได้ ด้านแม่บ้านตอบทันทีว่า "งานของคุณกำลังเพิ่มขึ้น ไม่ช้าก็เร็วคุณก็จะซื้อได้ ฉันเพิ่งซื้อบ้านหลังนี้ ภายนอกใหญ่และสวยงามเหมือนในรูป มีที่ให้หลานๆ ไว้วิ่งเล่นรอบทะเลสาบ"

เจ้านายอยากขึ้นเงินเดือนให้แม่บ้าน แต่โดนปฏิเสธ สงสัยกระทั่งเห็นที่อยู่
คำพูดของแม่บ้านทำให้สามีของเธอและเธอชะงักไปไม่กี่วินาที เธอพยายามกลืนข้าวที่ติดคอแล้วถามแม่บ้านว่าพูดจริงหรือล้อเล่น แต่เมื่อเห็นว่าเธอและสามีดูเหมือนจะไม่เชื่อ แม่บ้านรายนี้ก็ถอนหายใจและบอกว่าตัวเองมีลูกชายสองคน ทั้งคู่ประสบความสำเร็จอย่างมาก มีร้านค้าและบริษัทเป็นของตัวเอง ทั้งคู่มีความกตัญญูมาก ทุกเดือนนอกจากของขวัญแล้ว ลูก ๆ ยังส่งเงินกลับบ้านให้แม่ใช้อีกด้วย 


เมื่อไม่กี่วันก่อน จากที่เห็นวิลล่าที่สวยงามหลังหนึ่ง จึงใช้เงินของลูก ๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาซื้อมัน เธอแปลกใจมากและถามว่าทำไมถึงมาทำงานเป็นแม่บ้านทั้งๆ ที่ลูกๆ ดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด? ซึ่งแม่บ้านก็พูดเศร้าๆ ว่า 


"ฉันบอกว่าซื้อให้หลาน ๆ มีที่ไว้วิ่งเล่น แต่จริง ๆ แล้วฉันยังไม่มีหลานเลย แม้ว่าลูก ๆ ของฉันจะแต่งงานแล้ว แต่พวกเขาก็ยุ่งกับการทำงานมาก พวกเขายังไม่อยากมีลูก ฉันอาศัยอยู่ตามลำพังในชนบท และอยากมีหลานไว้คอยดูแล และรู้สึกถึงบรรยากาศของครอบครัว ฉันก็เลยมาทำงานเป็นแม่บ้าน โชคดีที่ได้พบคุณและภรรยา ฉันมีความสุขมาก!"

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อฟังเรื่องราวของสาวใช้ เธอและสามีก็รู้สึกขอบคุณสำหรับสิ่งที่แม่บ้านรายนี้ทำเพื่อครอบครัวของเธอ ซึ่งอีกฝ่ายก็ยิ้มและบอกเธอและสามีตั้งใจทำงานไป และปล่อยให้หน้าที่ดูแลลูกให้เป็นของแม่บ้าน และบอกว่ามองว่าเธอและสามีเป็นเหมือนครอบครัว ดังนั้นหากมีปัญหาใดๆ สามารถบอกได้ 

เจ้านายอยากขึ้นเงินเดือนให้แม่บ้าน แต่โดนปฏิเสธ สงสัยกระทั่งเห็นที่อยู่

ข้อมูลจาก SOHA