เกิดขึ้นอีกครั้งแล้วสำหรับเหตุการณ์ งูเหลือมกินคนในอินโดนีเซีย ซึ่งคราวนี้เหยื่อเป็นหญิงวัย 74 ปี ที่พาวัวไปกินหญ้าในพื้นที่ป่าบนภูเขาสุมารัมบู ในจังหวัดสุลาเวสีใต้ ห่างจากบ้านของเธอไปราว 1.6 กิโลเมตร ก่อนที่จะหายตัวไปอย่างลึกลับ กระทั่งพบภาพสยองอยู่กลางป่า
โดย หญิงวัยวัย 74 ปีรายนี้ได้พาแม่วัวไปกินหญ้าในป่าบนภูเขาเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา แต่แล้วทางครอบครัวก็เริ่มเป็นห่วงเมื่อไม่เห็นเธอกลับมาบ้าน ในวันต่อมา (15 สิงหาคม) ลูกชายวัย 39 ปี จึงเข้าไปหาเธอในป่าและพบรอยเลือดกระเซ็นอยู่บนพื้น ใกล้ๆ กระท่อมที่แม่ของเขามักจะมาพักอยู่
ในบริเวณป่าไม่ไกลจากกระท่อม ลูกชายพบศพแม่นอนแผ่อยู่บนพื้นหญ้า สภาพศพมีรอยถูกกัดบริเวณศีรษะและข้อเท้า เชื่อว่าถูกงูเหลือมยักษ์ขย้ำกินและสำรอกออกมา ลูกชายจึงอุ้มศพของแม่กลับมาบ้าน ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัวต่อการจากไปอย่างกะทันหันของหญิงชรา
ด้านรองผู้บัญชาการตำรวจในท้องที่ เปิดเผยว่า หลังจากทางตำรวจและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น รวมถึงกลุ่มชาวบ้านมารวมตัวกันในที่เกิดเหตุ มีการตรวจสอบร่างของผู้เสียชีวิตและยืนยันได้ว่าเธอถูกงูเขมือบ โดยผู้เสียชีวิตถูกงูกลืนลงไปตั้งแต่หัวจนถึงช่วงไหล่ ก่อนที่มันจะสำรอกออกมา
ต่อมาชาวบ้านและครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้พากันออกไปค้นดูในพื้นที่รอบๆ และเจองูเหลือมยาวประมาณ 4 เมตร อยู่ในพุ่มไม้ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ พวกเขาจึงช่วยกันฆ่างู ก่อนจะนำซากของมันกลับไปฝังไว้ที่บ้านของเหยื่อที่มันขย้ำไป
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่เดือนหลังจากที่อินโดนีเซียมีกรณีพบหญิงวัย 50 ปี ถูกงูเหลือมยักษ์กินทั้งเป็น หลังจากที่เหยื่อนำอาหารไปขายในตลาดท้องถิ่นใกล้ๆ บ้าน โดยงูฝังเขี้ยวที่ขาก่อนจะใช้ลำตัวพันเหยื่อ รัดจนขาดอากาศหายใจ และเริ่มกลืนเหยื่อจากศีรษะ
ในวันต่อมาสามีของเหยื่อได้ขอให้ชาวบ้านออกมาช่วยกันตามหา จนเจองูเหลือมยักษ์ตัวดังกล่าวนอนแผ่อยู่ในพงหญ้า สภาพช่วงท้องป่องมาก ทำให้ชาวบ้านฆ่าและผ่าท้องงูกระทั่งเจอศพของเหยื่อ เสียชีวิตอย่างน่าสยดสยอง