เด็ก 4 ขวบ ทำโถอายุ 3,500 ปีแตก แต่สิ่งที่ พิพิธภัณฑ์ จัดการกับเด็กน่าตกใจกว่า

28 สิงหาคม 2567

หนูน้อย 4 ขวบเผลอทำโถโบราณอายุ 3,500 ปีแตกด้วยความสงสัย ครอบครัวยิ่งตกใจหลังเห็นวิธีการที่ พิพิธภัณฑ์ ทำกับลูก

กลายประเด็นที่โลกออนไลน์สนใจอย่างมาก หลังจากที่มีรายงานว่า เด็กวัย 4 ขวบทำ โถโบราณอายุ 3,500 ปีแตก หลังจากที่น้องสงสัยยว่า มีอะไรอยู่ข้างใน ซึ่งสิ่งที่หลายคนโฟกัสในเรื่องนี้ก็คือวิธีการที่ พิพิธภัณฑ์ ได้จัดการกับเด็กที่ทำของโบราณชิ้นนี้แตก 

 

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

ตามรายงานระบุว่า เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นที่ พิพิธภัณฑ์เฮชท์ในเมืองไฮฟา ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอิสราเอล ซึ่ง โถอายุ 3,500 ปีกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หลังถูกเด็กชายวัย 4 ขวบดึงออกมาดูระหว่างทัศนศึกษาที่พิพิธภัณฑ์


เด็กชายชาวอิสราเอลวัย 4 ขวบเพิ่งไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ในเมืองดังกล่าวกับครอบครัวของเขา และบังเอิญทำลายภาชนะดินเผาที่หายากและได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีที่มีอายุตั้งแต่ยุคสำริด 2,200 ปีก่อนคริสตกาล ถึง 1,500 ปีก่อนคริสตกาลเป็นอย่างน้อย


ด้าน พิพิธภัณฑ์เฮชท์ในเมืองไฮฟากล่าวว่า โบราณวัตถุดังกล่าวจัดแสดงไว้ใกล้ทางเข้าพิพิธภัณฑ์โดยไม่มีกระจกหรือสิ่งกีดขวางใดๆ มาปิดกั้น เนื่องจากพิพิธภัณฑ์เชื่อว่าการจัดแสดงวัตถุทางโบราณคดีที่ "ไม่มีสิ่งกีดขวาง" นั้นเป็น "เสน่ห์พิเศษ" ให้กับผู้ชม
 

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

 

ขณะที่ พ่อของเด็กชายตกใจมากในตอนแรกที่เห็นลูกชายยืนอยู่ข้างโถโบราณที่แตกอยู่บนพื้น ซึ่งคิดว่า "ลูกชายไม่ได้ทำ" ซึ่งหลังจากทำให้เด็กชายสงบลงแล้วจึงพูดคุยกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หลังจากชี้แจงสถานการณ์แล้ว ผู้เป็นพ่อบอกว่าลูกชายค่อยๆ ดึงโถออก เพราะเขาสงสัยว่ามีอะไรอยู่ในนั้นจึงทำให้โถหล่นลงมา


ทั้งนี้ พิพิธภัณฑ์เฮชท์ระบุว่า หากมีความเสียหายต่อนิทรรศการโดยเจตนา พิพิธภัณฑ์จะขอให้ตำรวจเข้าแทรกแซงและจัดการขั้นเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ ความเสียหายนั้นเกิดจากเด็กโดยไม่ได้ตั้งใจ ดังนั้น ทางพิพิธภัณฑ์จึงไม่ตำหนิและจะดำเนินการแก้ไขตามความเหมาะสม

 

นอกจากนี้ยังมีการแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์มาบูรณะโถใบนี้ด้วย และจะส่งคืนไปยังจุดเดิม "ภายในเวลาอันสั้น" อเล็กซ์ พ่อของเด็กชายกล่าวว่าพวกเขาจะรู้สึก "โล่งใจ" ที่ได้เห็นโถใบนี้ได้รับการบูรณะใหม่ แต่ก็ "เสียใจ" ด้วยเพราะโถจะไม่ใช่ของดั้งเดิมอีกต่อไป

 

อย่างไรก็ตาม พิพิธภัณฑ์ยังคงยืนยันว่า จะไม่มีอุปสรรคหรือกระจกกั้นระหว่างนิทรรศการและผู้เยี่ยมชม "ถึงแม้จะมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่เราตั้งใจที่จะสานต่อประเพณีนี้"

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล