ผู้คนแห่ซื้ออาหารตุนรับมือพายุ แต่มีอยู่ 2 อย่างที่ไม่โดนหยิบไป

จากสถานการณ์พายุยางิ ที่พัดถล่มเวียดนาม ทำให้หลายๆ บ้านพยายามที่จะตุนอาหารไว้ในบ้านยามฉุกเฉิน อีกทั้งยังต้องเร่งอพยพผู้คนในพื้นที่ประสบภัย และยังส่งผลกระทบหนักต่อภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจในประเทศ ขณะเดียวกันผู้คนในกรุงฮานอย ที่คาดว่าจะต้องเจอน้ำท่วมในอีกไม่ช้า ต่างก็พากันเตรียมความพร้อมเท่าที่จะทำได้

ทำให้ตอนนี้ภาพชั้นวางของที่ว่างเปล่ากลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์อย่างมาก หลังคนแห่ซื้อของกินของใช้ไปตุนกัน หากใครเลิกงานช้าหรือมาซื้อของดึก ก็อาจเหลือตัวเลือกให้ซื้อเพียงไม่กี่อย่าง อย่างไรก็ตาม ในขณะที่สินค้าจำพวกผักและเนื้อถูกคนกว้านซื้อไปจนเกลี้ยงชั้น กลับพบว่าในซูเปอร์มาร์เกตแห่งหนึ่งของเวียดนาม ยังมีสินค้าอยู่ 2 อย่างเหลืออยู่มากมาย นั่นคือ แซลมอนและมะระ

ภาพดังกล่าวถูกนำเสนอผ่านเว็บไซต์สื่อดังของเวียดนาม เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 ที่ผ่าน ซึ่งมันทำให้ชาวเน็ตอดสงสัยไม่ได้ว่า เหตุใดแซลมอนกับมะระจึงถูกผู้บริโภคเมินจนเหลือเต็มชั้นวาง ในขณะที่เนื้อสัตว์ ปลา รวมถึงผักผลไม้อื่นๆ ถูกซื้อไปจนหมดแล้ว ซึ่งแซลมอนเป็นหนึ่งในปลาที่มีสารอาหารมากมาย และมักถูกเลือกเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่มีประโยชน์สูง ขณะที่มะระก็เป็นผักที่มีประโยชน์ แต่กลับโดนเมินซะอย่างงั้น

เรื่องนี้ได้รับการเฉลยจากแหล่งข่าวจากซูเปอร์มาร์เกตแล้วว่า แซลมอนนั้นเป็นเนื้อที่มีราคาค่อนข้างแพง และมีกระบวนการมากมายในการนำไปทำอาหาร เมื่อเทียบกับเนื้อชนิดอื่นๆ ผู้คนจึงมักเลือกซื้อเนื้อชนิดอื่นก่อน เช่นเดียวกับมะระซึ่งมีรสชาติขม อาจจะไม่ได้มีคนชอบกินนัก จึงไม่ค่อยมีคนซื้อไป

อย่างไรก็ตาม แม้เหตุผลดังกล่าวจะทำให้ แซลมอนกับมะระ เหลือเยอะมาในชั้นวางของ แต่ก็ใช่ว่าสินค้าทั้ง 2 อย่างนี้จะไม่มีใครซื้อไปซะทีเดียว เพราะสุดท้ายมันก็ยังเป็นตัวเลือกที่เหลืออยู่ไม่กี่อย่างสำหรับกลุ่มคนที่เลิกงานดึกและมาซื้อของช้า ทำให้พวกเขาต้องยอมซื้อแซลมอนกับมะระไป ทำให้สินค้าทั้ง 2 ชนิดนี้หมดไปเช่นกัน แสดงให้เห็นว่า ในเวลาที่ยากลำบากอะไรที่ประทังชีวิตได้ก็ไม่ควรมองข้าม 

ข้อมูลจาก kenh14.vn