นับเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สุดสะเทือนใจในต่างประเทศที่เพิ่งมีรายงานเมื่อไม่นานมานี้ เนื่องจากมีชายรายหนึ่งในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซ่อนศพภรรยาที่เสียชีวิตไว้ในตู้เย็นนานถึง 9 ปี เพียงเพื่อรับเงินสวัสดิการ
โดยเหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผยหลังจากชายคนดังกล่าวป่วยเป็นโรคหลอดเลือดสมองและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล จนเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพของภรรยาในที่สุด ซึ่งตามรายงานจากสื่อสหรัฐฯ หลายแห่ง ชายคนดังกล่าวชื่อว่า โรเบิร์ต แฮกสบี (Robert Haxby) ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อเดือนธันวาคม 2023
ตามรายงานระบุว่า ชายคนดังกล่าวป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไปตรวจค้นบ้านของเขา และพบตู้เย็นที่ถูกคลุมด้วยผ้ากันน้ำอยู่ติดผนัง ในตู้เย็นนั้นมีร่างของ แมรี มาร์กาเร็ต แฮกสบี-โจนส์ (Mary Margaret Haxby-Jones) ภรรยาของเขา ซึ่งคาดว่าศพของเธออาจเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 9 ปี
จากการตรวจสอบศพของแมรี ซึ่งตอนเสียชีวิตมีอายุประมาณ 72 ปี พบว่าไม่มีบาดแผลภายนอกที่ชัดเจน ตำรวจจึงสงสัยว่าเธออาจเสียชีวิตจากสาเหตุธรรมชาติ ทว่า โจเซฟ เบเนเวนติน (Joseph Beneventin) เพื่อนที่อาศัยอยู่ในบ้านของแฮกสบี ได้อ้างว่าเขาถูกแฮกสบีข่มขู่ด้วยปืนให้ช่วยย้ายร่างของแมรีไปใส่ในตู้เย็น
อีกทั้ง เบเนเวนตินยังระบุว่า แมรี ซึ่งมีน้ำหนักกว่า 180 กิโลกรัม อาจเสียชีวิตเพราะปัญหาสุขภาพ แต่แฮกสบีต้องการเก็บศพไว้ในตู้เย็นเพื่อให้สามารถรับเงินสวัสดิการของเธอต่อไปได้ จึงใช้ปืนข่มขู่ให้เขาช่วยซ่อนศพ
และเพราะแฮกสบีเสียชีวิตในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ตำรวจจึงไม่สามารถดำเนินคดีหรือตั้งข้อกล่าวหาใดๆ ได้ อย่างไรก็ตาม ทนายความของแฮกสบีโต้แย้งว่า เบเนเวนตินมีโอกาสแจ้งตำรวจได้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่เขากลับเลือกที่จะอยู่ในบ้านของแฮกสบีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จึงสงสัยว่าเบเนเวนตินอาจให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความจริง
ข้อมูลจาก 10news และ ailymail.co.uk