มีรายงานเหตุการณ์สุดแปลกที่เกิดขึ้นในเมืองเจิ้งโจว ประเทศจีน เมื่อ หญิงรายหนึ่ง ซึ่งใช้ไฟฟ้าเดือนละไม่ถึง 10 ยูนิต หรือคิดเป็นค่าไฟ 6 หยวน (ประมาณ 28 บาท) ถูกบริษัทการไฟฟ้าในท้องถิ่นสั่งปรับเป็นเงิน 40,000 หยวน หรือราวๆ 187,000 บาท ทำให้ครอบครัวของเธอช็อกอย่างมาก ไม่เข้าใจว่าเหตุใดการใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดของเธอถึงสร้างปัญหา และเหตุการณ์นี้ก็กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม
ปรากฏว่าระหว่างการตรวจสอบตามปกติ พนักงานของบริษัทการไฟฟ้าพบว่ามิเตอร์ไฟฟ้าของบ้านหลังหนึ่งมีสัญญาณความผิดปกติ เพราะบ้านหลังนี้มีปริมาณการใช้ไฟไม่ถึงเดือนละ 10 ยูนิต มานานหลายปี ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เคยใช้ไฟฟ้าสูงกว่านี้
และเมื่อตรวจสอบเพิ่มเติม บริษัทก็พบสิ่งที่ต้องสงสัยว่าจะมีการปลอมแปลงตัวเลขบนมิเตอร์ไฟฟ้า เนื่องจากฝาครอบมิเตอร์เคยถูกเปิดออกในช่วงเวลาสั้นๆ เพียง 5 นาที ก่อนที่ไฟฟ้าของบ้านหลังนี้จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
และสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้บริษัทการไฟฟ้าเชื่อว่า บ้านหลังนี้ลักลอบขโมยใช้ไฟ จึงตัดสินใจลงโทษด้วยการสั่งปรับจำนวน 5 เท่า จากค่าไฟที่ควรจะเป็น คิดเป็นเงินจำนวน 40,000 หยวน พร้อมส่งใบแจ้งค่าปรับไปยังครอบครัวของเธอ
ก่อนหน้านี้ หญิงคนดังกล่าวนึกว่าเรื่องดังกล่าวเป็นแค่การหลอกลวง เพราะไม่น่าจะมีใครถูกปรับจากการใช้ไฟฟ้าน้อย แต่แล้ววันหนึ่งตอนที่เธอเลิกงานกลับมาบ้าน กลับพบว่าไม่สามารถเปิดไฟในบ้านได้ ทั้งๆ ที่บริเวณรอบบ้านก็มีไฟฟ้าส่องสว่างปกติ
แม้แต่เพื่อนบ้านก็ยังเปิดไฟได้ไม่มีปัญหา เห็นดังนั้นเธอจึงใช้ไฟจากโทรศัพท์มือถือส่องไปยังมิเตอร์ไฟฟ้าที่อยู่หน้าบ้าน แล้วก็ต้องช็อกสุดขีดเมื่อพบว่ามิเตอร์ไฟฟ้าของบ้านเธอหายไป ทั้งๆ ที่ไม่น่าจะมีใครขโมย
เมื่อตรววจสอบกล้องวงจรปิด เธอก็ยิ่งโมโหหนัก กลายเป็นว่าคนที่เอามิเตอร์ไฟฟ้าไป ก็คือพนักงานการไฟฟ้าที่แอบมาถอดมิเตอร์ไฟฟ้าของบ้านเธอไปตรวจสอบ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า จากนั้นเธอจึงโทร. ติดต่อไปหาบริษัทการไฟฟ้าทันที
แล้วก็แทบไม่เชื่อหูตัวเองเมื่อทางบริษัทแจ้งว่า พวกเขาสงสัยว่าบ้านของเธอแอบขโมยใช้ไฟ จึงต้องนำมิเตอร์ไฟฟ้ากลับไปตรวจสอบ และนี่คือครั้งแรกที่เธอเคยได้ยินเรื่องที่มีคนถูกสงสัยว่าขโมยใช้ไฟ เพราะใช้ไฟฟ้าที่บ้านน้อยเกินไป
"ต่อให้คุณเห็นว่ามิเตอร์ไฟบ้านฉันมีปัญหา ก็ไม่ควรถอดไปโดยไม่บอกเช่นนี้ คุณคิดว่าครอบครัวฉันจะใช้ชีวิตอยู่ยังไงโดยไม่มีไฟฟ้า" หญิงคนดังกล่าวอธิบาย ซึ่งที่น่าสิ้นหวังว่านั้น คือทางการไฟฟ้าอ้างว่าครอบครัวของเธอขโมยใช้ไฟ เพื่อลดค่าไฟในบิล
หญิงคนดังกล่าวอธิบายว่า ครอบครัวของเธอไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่บ้านมากนัก ใช้แค่ทีวีและตู้เย็นขนาดเล็กๆ เธอไม่เคยซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินพลังงานสูงเลย บ้านของเธอใช้ไฟฟ้าโดยประหยัดมาโดยตลอดตามประสาครอบครัวที่ยากจน นอกจากนี้ เมื่อลูกของเธอเริ่มไปโรงเรียน ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของครอบครัวก็ยิ่งลดลงกว่าเดิม
"ฉันไม่มีเครื่องซักผ้า ไม่ได้เปิดตู้เย็น ไม่ได้เปิดไฟไว้ระหว่างวันตอนไปทำงาน ฉันเปิดพัดลมแค่บางโอกาส ฉันใช้ไฟฟ้าไม่มาก แล้วการใช้ไฟฟ้าน้อยจนเป็นปกติแบบนี้มันแปลกตรงไหน" เธออธิบายเพิ่มเติม
ด้านทางการไฟฟ้ายังคงยืนกรานที่จะลงโทษเธอ ฐานขโมยใช้ไฟฟ้าเพื่อลดค่าไฟในบิล โดยยกเหตุผลเรื่องปริมาณการใช้ไฟฟ้าน้อยผิดปกติ ร่วมกับมีความผิดปกติที่มิเตอร์ไฟฟ้ามาอ้าง ซึ่งเธอยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหานี้อย่างหนักแน่น พร้อมวิงวอนให้สื่อกดดัน เพื่อให้มีการส่งมิเตอร์ไฟฟ้าของบ้านเธอไปตรวจสอบที่หน่วยงานอิสระ เพื่อยืนยันความจริง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลายมาเป็นที่ถกเถียงอย่างมากในสังคมจีน บางคนมองว่าทางการไฟฟ้าควรเคลียร์เรื่องข้อกฎหมายให้ชัดเจน ก่อนจะมีการลงโทษใดๆ การถอดมิเตอร์ไฟฟ้าไปโดยไม่แจ้งล่วงหน้าแบบนี้ เหมือนขาดความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน
อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดก็ยังไม่มีความชัดเจนถึงข้อสรุปและทางออกของเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้จะเป็นข้อถกเถียงมานานหลายปี
ข้อมูลจาก SAOstar และ Sina