แม้หลายๆ คนจะชอบการนอน แต่เชื่อว่าคงไม่มีใครเกินไปกว่าชายวัย 36 ปีในมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีนรายนี้ ที่ที่นอนหลับต่อเนื่องยาวนานถึง 22 วัน และที่น่าประหลาดใจกว่านั้นคือ การนอนหลับยาวนานเกิน 3-4 วันถือเป็นเรื่องปกติในชีวิตของเขา
ชายคนดังกล่าวมีชื่อว่า เหมิน เขาเติบโตในเขตหลานซี มณฑลเฮยหลงเจียง ซึ่งชีวิตเขาไม่สามารถทำงานกลางวันได้เพราะต้องการนอนหลับ จึงต้องหาเลี้ยงชีพด้วยการทำการเกษตร เหมินเล่าว่าตนเองต้องนอนกลางวันอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง และไม่ต้องการเสียเวลานอนในตอนกลางคืน
นั่นอาจฟังดูไม่น่าเชื่อที่คนหนึ่งจะสามารถนอนหลับแบบนี้ได้ในสภาวะเหนื่อยล้าสุดขีด แต่ถ้าสภาวะนี้ดำเนินต่อเนื่องมาหลายสิบปี ย่อมดูเป็นเรื่องที่ยากจะเข้าใจ ซึ่งแม้เขาจะนอนมากกว่าวันละสิบชั่วโมง แต่ก็ยังมีรอยคล้ำใต้ตา ดวงตาของเขาดูหม่นหมอง แต่โดยรวมแล้วไม่ได้แตกต่างจากคนทั่วไป
เขาเล่าว่า ในคืนหนึ่งเวลา 21:00 น. เหมินเข้าไปอาบน้ำและหลับภายในครึ่งนาที หลังจากเขาหลับ เขามีลักษณะเหมือนคนทั่วไป เช่น ขยับตัวและกรนเป็นครั้งคราว การหายใจของเขาสม่ำเสมอ และเขาตื่นในเวลา 06:00 น. ของวันรุ่งขึ้น
เหมินสามารถเข้าสู่ภาวะหลับลึกได้ง่าย บางครั้งเขาเข้าสู่สภาวะคล้ายการจำศีล การหายใจอ่อนแรง ร่างกายแข็งทื่อ หากมีคนเรียกชื่อเขา เขายังตอบกลับได้ด้วยเสียงแผ่วเบา แต่จะไม่โต้ตอบคำพูดอื่นใด บางครั้งเวลาลุกมาเข้าห้องน้ำจะมีอาการเหมือนคนละเมอ
อีกทั้งมีอยู่ครั้งหนึ่งเขานอนหลับต่อเนื่องนานถึง 22 วัน โดยไม่ได้ตื่นขึ้นมากิน ดื่ม หรือขับถ่ายตลอดช่วงเวลานั้น แต่แม่ของเหมินจะนำโจ๊กมาให้ โดยเธอจะค่อยๆ ป้อนและพูดกับลูกชายว่า "กลืน" เขาจึงสามารถรับประทานได้
ตามรายงานระบุว่า อาการของเหมินเริ่มขึ้นเมื่อเขาอายุ 15 ปี หลังจากเหยียบตะปูที่ยาวประมาณ 2 - 3 นิ้ว และครอบครัวบันทึกว่าเขามีอาการ "จำศีล" ปีละ 5 - 6 ครั้ง แต่ละครั้งกินเวลานาน 4 - 5 วัน และครั้งที่นานที่สุดคือ 22 วัน ซึ่งหลังการตรวจร่างกายอย่างละเอียด ผลคือ "ไม่พบสิ่งผิดปกติ"
จากการวิเคราะห์ของแพทย์ สาเหตุของอาการของเหมินอาจมาจากปัจจัยหลัก 3 ประการคือ 1. โรคจิตเภท (Schizophrenia) โรคจิตเภทเป็นโรคซับซ้อนที่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด มีอาการทางจิตที่หลากหลาย สภาวะ "จำศีล" ของเหมินอาจจัดอยู่ในกลุ่มนี้
2. โรคซึมเศร้า (Depression) ผู้ป่วยซึมเศร้าบางรายอาจมีอาการง่วงซึมและความคิดช้าลง แต่เหมินไม่ได้มีแนวโน้มเป็นโรคซึมเศร้า
3. โรคฮิสทีเรีย (Hysteria) ผู้ที่เป็นโรคนี้มักจะควบคุมอารมณ์หรือความวิตกกังวลไม่ค่อยได้ อีกทั้งความสามารถในการควบคุมพฤติกรรมก็ทำได้ไม่ดีเท่าคนปกติ เป็นอาการของผู้ที่มีความเครียด หรือความขัดแย้งในใจ มักเกิดจากความผิดปกติที่ระบบการเคลื่อนไหวและรับรู้ ในเวลาที่มีอาการเครียดหรือผิดหวังอย่างรุนแรง
เช่น มีอาการชาตามแขน ขา เป็นอัมพาต เสียการทรงตัว จมูกไม่ได้กลิ่น บางรายมีอาการสูญเสียความทรงจำอย่างกะทันหันฮิสทีเรียสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ แพทย์คาดว่าแม่ของเหมินอาจมีภาวะนี้และถ่ายทอดมายังเขา
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้แพทย์ยังคงพยายามหาสาเหตุและแนวทางการรักษาเพื่อช่วยให้เหมินกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติในเร็ววัน
ข้อมูลจาก Soha