นร.ป.2 จู่ๆ ตาบอด หมอกุมขมับ หลังรู้ว่าพ่อแม่เอาอะไรให้ลูกกินตั้งแต่เด็ก
นักเรียนชั้น ป.2 จู่ๆ สูญเสียการมองเห็น ครูรีบพาไปโรงพยาบาล ตรวจปุ๊บหมอกุมขมับ หลังรู้ว่าพ่อแม่เอาอะไรให้ลูกกินตั้งแต่เด็ก
กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจในโลกออนไลน์ทันที หลังจากที่ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Erna Nadia ได้โพสต์เล่าเคสนักเรียนที่เรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 สูญเสียการมองเห็น ก่อนจะมารู้ทีหลังว่าสาเหตุเกิดจากอะไรยิ่งทำให้โพสต์ดังกล่าวกลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์ของมาเลเซียทัน
โดยเจ้าของโพสต์เล่าว่า เด็กไม่ได้ตาบอดจากการกินอาหารแค่ครั้งหรือสองครั้ง แต่เป็นผลมาจากการทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักโภชนาการที่ตรวจเช็กเด็กเผยว่าเด็กมีการกินอาหารที่น่าตกใจ เพราะเธอได้รับแต่อาหารแปรรูป เช่น นักเก็ต ไส้กรอก คุกกี้ ตั้งแต่เกิดจนถึงช่วงหลังๆ นี้ เธอเรียนแค่ชั้นป. 2 เท่านั้น
ด้าน เด็กหญิงถามคุณครูว่าทำไมถึงมองไม่เห็น ก่อนที่จะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล ซึ่งหลังจากการตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่าเด็กหญิงสูญเสียการมองเห็นเนื่องจากขาดวิตามินเอ ซึ่งการสูญเสียการมองเห็นทั้งหมดนี้น่าเสียดายว่าไม่สามารถกลับคืนได้
สำหรับ วิตามินเอนั้นสำคัญไม่เพียงแค่ในการเผาผลาญพลังงาน แต่ยังจำเป็นต่อการมองเห็นที่ดี ตามข้อมูลจาก Cleveland Clinic เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินเอเพียงพอ ควรกินผักใบเขียว ผลไม้ เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์นม และปลาแซลมอน
ทั้งนี้เจ้าของโพสต์ยังเป็นหมออีกด้วย ได้อธิบายว่า เรื่องนี้ถูกแชร์โดยเพื่อนของเธอ และเธอยังได้แชร์อาการขาดวิตามินเอที่สามารถสังเกตได้ เช่น ตาแห้งและการมองเห็นไม่ชัด ซึ่งเธอยังได้ชี้แจงว่าโพสต์ของเธอไม่ได้มีเจตนาวิพากษ์วิจารณ์พ่อแม่ แต่เป็นการเตือนทุกคน รวมถึงตัวเธอเองเกี่ยวกับความสำคัญของการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
"อาหารเสริมไม่ช่วยมากหรอก สมัยก่อนพ่อแม่และปู่ย่าตายายเลี้ยงเราด้วยอาหารที่เหมาะสมใช่ไหม?"
ส่วนเด็กหญิงและพ่อแม่ของเธอ ไม่มีอะไรที่สามารถทำได้ นอกจากการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ อาหารที่มีสีสันมาก ยิ่งไม่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งในโพสต์ของเธอ ยังบอกว่า เธอเข้าใจดีว่าบางครั้งพ่อแม่อาจยุ่งมากจนไม่มีเวลาเข้าครัว แต่เธอแนะนำให้ทุกคนพยายามทำอาหารที่เหมาะสม แม้จะไม่ใช่อาหารที่ดีต่อสุขภาพก็ตาม
แต่ถึงอย่างไรนั้น แค่ข้าวจานหนึ่งกับไข่ และน้ำซอสถั่วเหลืองก็เพียงพอแล้ว ขณะที่อาหารแปรรูปนั้นไม่ดีต่อสุขภาพและไม่มีสารอาหาร ยิ่งเก็บไว้นาน สีสันยิ่งมาก ก็ยิ่งไม่ดีต่อสุขภาพ บางครั้งอาหารเหล่านั้นอาจเป็นของโปรด แต่หากกินมากเกินไปก็อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่เราคาดไม่ถึง และจะเสียใจในภายหลัง
ข้อมูลจาก WORLD OF BUZZ