นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยถึงการนับคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ข้อมูลเวลา 09.57 ของวันนี้ 15 พ.ค. รายงานผลการออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งเมื่อวานนี้ (14พ.ค.) มีผู้มาใช้สิทธิ์ 39,293,867 จาก ประมาณ 52 ล้านกว่าคน หรือร้อยละ75.22 ซึ่งสังเกตได้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้มาใช้สิทธิจำนวนมากสูงสุดที่ ปี 62 ใช้สิทธิเพียงร้อย 47.87
ทั้งนี้มีหน่วยนับคะแนน 95,137 หน่วย ซึ่งนับครบร้อยละ 90 เมื่อคืนนี้ จึงขออภัยความล่าช้าที่เกิดขึ้น คือ ความพยายามของผู้ปฏิบัติที่จะทำให้มั่นใจว่า การนับคะแนนครั้งนี้ต้องรวดเร็วและถูกต้องเป็นหลัก ข้อมูล ที่เริ่ม18.30น. เป็นข้อมูลที่ถูกต้องมากที่สุด และที่ผิดพลาดก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยสามารถทำได้ภายใน5 วัน
นายอิทธิพร ยอมรับ 1-2 แห่ง ลงคะแนนไม่ได้ เช่น นครปฐม มีพายุฝนทำให้บางหน่วยต้องประกาศงดการลงคะแนน เพราะเต็นท์เสียหายไม่สามารถดำเนินการส่วนการดำเนินคดีผู้กระทำผิดกฎหมายวันเลือกตั้ง กรณีฉีดบัตร 24 ราย ขายสุรา 7 ราย ถ่ายรูปบัตร 4 ราย เรื่องร้องเรียนจนถึงตอนนี้ 168 เรื่อง ซื้อเสียง 59 เรื่องหลอกลวงใส่ร้าย 58 เรื่อง เจ้าหน้าที่รัฐใช้ตำแหน่งโดยมิชอบ 18 เรื่อง และอื่นๆ
สำหรับกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ถูกสอบเรื่องคุณสมบัติการถือหุ้นสื่อ จะมีผลต่อการประกาศรับรองผลมากน้อยแค่ไหน ประธานกกต. ระบุว่าจะมีผลหรือไม่ พอเป็นคำร้องเมื่อมายื่นแล้วก็เสมือนหนึ่งว่ากำลังเข้าสู่กระบวนการพิจารณาซึ่งเหมือนกระบวนการศาลการจะพูดว่ามีผลหรือไม่มีผล อาจจะไม่เหมาะสมสำหรับคนที่จะเป็นผู้พิจารณาเพราะฉะนั้น พอมีคำร้องทุกๆคำร้องเหมือนกันหมด กกต.จะตรวจสอบเบื้องต้น แล้วจะต้องมีการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริง พอผ่านขั้นตอนคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนแล้ว ก็จะมีขั้นตอนตามลำดับ จากผอ.จังหวัดมาสู่ส่วนกลางและมาอยู่ที่เลขาธิการฯให้ความเห็นแล้ว เข้าสู่ที่ประชุมกกต. พอเข้าสู่ที่ประชุมก็จะต้องมีคณะอนุกรรมวินิจฉัยกระบวนการพิจารณา ตั้งแต่ขั้นตอนเบื้องต้นจนถึงขั้นตอนปัจจุบันว่าเป็นอย่างไรจึงจะสามารถตัดสินได้ ตอนนี้คำร้องมีผู้มายื่นอยู่ในขั้นตอนกระบวนการพิจารณา จะต้องใช้เวลา เมื่อถึงเวลาก็จะต้องประกาศว่าจะเป็นอย่างไร