จากกรณี ‘อุ๊ หฤทัย ม่วงบุญศรี’ อดีตนักร้องดัง ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นหลังทราบผลการเลือกตั้ง พร้อม ลั่น สว.ต้องจบได้แล้ว ให้ประเทศเป็นไปตามกลไกเสียงข้างมาก เมื่อบทสัมภาษณ์นี้ถูกเผยแพร่ออกไปทำให้หลายคนสงสัยและตั้งคำถามถึงทัศนคติทางการเมืองของ อุ๊ หฤทัย ที่เปลี่ยนไป
ล่าสุด อุ๊ หฤทัย ม่วงบุญศรี ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชี้แจงการให้สัมภาษณ์ภายหลังผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ซึ่งผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ปรากฏว่า พรรคก้าวไกลมาเป็นอันดับ 1 และได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ว่า
ตนสนับสนุนให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรี และให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) หยุดสกัดนายพิธาหรือไม่ เป็นความเข้าใจผิดและไม่ได้หมายความเช่นนั้น
พร้อมชี้แจงบริบทการสนทนา 3 ข้อ ว่า
1. นายพิธา ชนะการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นเราต้องยอมรับกติกาเสียงข้างมาก ก็ต้องปล่อยให้ นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ไม่ควรแก้มาตรา 112 เพราะจะทำให้ประเทศเกิดความขัดแย้ง และนายพิธา ต้องวางตัวเป็นกลางเรื่องความขัดแย้งการเมืองระหว่างประเทศ ซึ่ง 2 ประเด็นนี้ ส.ว. จะพิจารณาเพื่อยกมือหรือไม่ยกมือให้นายพิธาด้วย
2. อุปสรรคของนายพิธา ไม่ใช่ ส.ว. แต่อุปสรรคคือ นายพิธา ฟอร์มรัฐบาลไม่ได้
3. แม้จะเป็น ส.ว. ที่มาจากการเลือกตั้ง นายพิธา ก็น่าจะแพ้ เพราะที่ผ่านมาในอดีต ส.ว. จากการเลือกตั้งมักจะเป็นคนของ นายทักษิณ ชินวัตร
ในช่วงท้าย อุ๊ หฤทัย สรุปว่า "พิธา ต้องไม่จุดประเด็นความขัดแย้งทั้งในและนอกประเทศ ในประเทศก็คือ ม.112 และต้องวางตัวเป็นกลางระหว่าง รัสเซีย จีน และอเมริกา แค่นี้สันติสุขก็บังเกิดและแถลงข่าวเป็นเรื่องเป็นราวให้ ส.ว. มั่นใจ แล้วก็จะได้เป็นนายกฯ ของประเทศไทยที่มีแต่ความสงบสุขและสันติ ประเทศก็ขับเคลื่อนไปได้"