จากกรณีที่นายชวลิต เลาหอุดมพันธ์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ปมงบการเงิน (ส.บช.3) ที่ไอทีวีส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นการรายงานที่เป็นเท็จ!!! โดยระบุว่า
"งบการเงิน" และ "หมายเหตุประกอบงบการเงิน" ของบริษัทไอทีวีปี 2565 ทั้งหมด 33 หน้า ถูกคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้ออกงบเมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2566 และนำส่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ผมได้แนบเป็นภาพมาในโพสนี้แล้ว
ทุกท่านสามารถเข้าไปโหลดมาดูได้ด้วยตาของทุกท่านเองในเว็บไซต์ของ กลต. ในลิงค์ด้านล่างได้เลยครับ ว่า มีคำว่า "สื่อโทรทัศน์" หรือ "กิจกรรมการเผยแพร่ภาพยนตร์วีดิทัศน์และรายการโทรทัศน์" หรือ ข้อความที่สื่อความหมายว่า "ยังดำเนินกิจการอยู่" บ้างไหม?
นี่คือเอกสารที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาปกติ ก่อนที่จะมีกระบวนการพยายามฟื้นคืนชีพไอทีวีให้เป็นสื่อหลังจากวันประชุมผู้ถือหุ้น
(วันประชุมผู้ถือหุ้น 26 เม.ย. 66 ประธานในที่ประชุมยังตอบคำถามปกติ ดูจากในคลิปที่ตอบว่า "ตอนนี้บริษัทยังไม่มีการดำเนินการใด ๆ รอผลคดีความให้สิ้นสุดก่อน" อย่างที่เราทราบกันแล้ว)
หลังจากวันประชุมผู้ถือหุ้นไม่นาน จึงเกิดความผิดปกติ เกิดการทำเอกสารบันทึกการประชุมเท็จ อย่างที่เราทราบกัน
ในเมื่อ เอกสารบันทึกการประชุม หมดความน่าเชื่อถือ บรรดาคนที่ให้ความเห็นเรื่องนี้ในทางที่จะให้ไอทีวีเป็นสื่อให้ได้ จึงดิ้นเปลี่ยนมา อ้าง งบการเงินปี 65 ที่ปรากฎในเว็บกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแทน ซึ่ง มีข้อความว่า
"สถานะนิติบุคคล ยังดำเนินกิจการอยู่" และ "ประเภทธุรกิจที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ประเภทธุรกิจ 59131 กิจกรรมการเผยแพร่ภาพยนตร์วีดิทัศน์และรายการโทรทัศน์ วัตถุประสงค์ สื่อโทรทัศน์"
ซึ่งขัดแย้งกับ งบการเงินปี 65 33 หน้า นี้
ทำไมข้อมูลถึงขัดแย้งกัน ทั้งๆ ที่เป็นงบการเงินปี 65 เหมือนกัน รหัสผู้ตรวจสอบบัญชี คนเดียวกัน?
นั่นเพราะ การส่งข้อมูลงบการเงินให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เกิดขึ้นในวันที่ 10 พ.ค. 2566 ซึ่งอยู่ในช่วงกระบวนการพยายามฟื้นคืนชีพไอทีวีให้เป็นสื่อ
ไอทีวี ในการดำเนินการของ อินทัช จึงส่ง "แบบนำส่งงบการเงิน (ส.บช.3)" ปี 2565 ให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยมีข้อความเกี่ยวกับสถานะการดำเนินกิจการ และประเภทธุรกิจ ขัดแย้ง ตรงกันข้ามกับ งบการเงินปี 2565 ที่อนุมัติในวันที่ 24 ก.พ. 2566 และปรากฎในเว็บไซต์ของ กลต.
สรุป แบบนำส่งงบการเงิน (ส.บช.3) ที่ไอทีวีส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงเป็นการรายงานที่เป็นเท็จ