จากการที่ก่อนหน้านี้ว่อนเอกสารวาระการประชุมฝ่ายความมั่นคง ถกแผนรับ "ทักษิณ" กลับไทย สิ้นเดือนก.ค.นี้ ทั้งการเดินทาง-สถานที่คุมตัว โดยเอกสารดังกล่าว เป็นกำหนดการประชุมเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ ในวันพุธที่ 12 ก.ค.66 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมปารุสกวัน 1 อาคาร บช.น. (กองบัญชาการตำรวจนครบาล) ในเอกสารระบุว่า
ระเบียบวาระการประชุมที่ 2 เป็นการรับทราบสถานการณ์การข่าวและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์และภัยคุกคาม (บช.ส.1) (กองบัญชาการตำรวจสันติบาล) รวมไปถึงขั้นตอนการดำเนินการตามกฎหมาย กรณีมีผู้ต้องหาตามหมายจำคุกเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยเครื่องบินโดยสาร ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง หรือสุวรรณภูมิ
ในระเบียบวาระการประชุมที่ 3 เป็นเรื่องพิจารณา ประกอบด้วย
3.1 การพิจารณากำหนดเส้นทางการเดินทาง (บก.จร.) (กองบังคับการตำรวจจราจร) รวม 6 เส้นทาง ได้แก่
3.1.1 เส้นทาง (หลัก และรอง) จากสนามบินสุวรรณภูมิ มายังศาลฎีกา (สนามหลวง), 3.1.2 เส้นทาง (หลัก และรอง) ในการเดินทางจากสนามบินดอนเมือง มายังศาลฎีกา (สนามหลวง), 3.1.3 เส้นทาง (หลัก และรอง) ในการเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ มายัง บช.ปส. (กองบัญชาการตํารวจปราบปรามยาเสพติด) (สถานที่ควบคุมพิเศษ), 3.1.4 เส้นทาง (หลัก และรอง) ในการเดินทางจากสนามบินดอนเมือง มายัง บช.ปส. (สถานที่ควบคุมพิเศษ), 3.1.5 เส้นทาง (หลัก และรอง) จาก บช.ปส. มายังศาลฎีกา (สนามหลวง) และ 3.1.6 เส้นทาง (หลัก และรอง) จากศาลฎีกา (สนามหลวง) มายังเรือนจำพิเศษ กทม.
3.2 เป็นการพิจารณาแนวทางการวางกำลังรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกการจราจร (พื้นที่ที่เกี่ยวข้อง) แบ่งเป็น
3.2.1 เส้นทางการเดินทาง ตามข้อ 3.1.1-3.1.6 และ 3.2.2 การบริหารจัดการพื้นที่ และการวางกำลังรักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร ในแต่ละสถานที่ (สนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินดอนเมือง, บช.ปส. และ ศาลฎีกา)
3.3 เป็นการพิจารณาแนวทางการจัดรูปแบบขบวนรถในการรักษาความปลอดภัย (บก.จร. และ บก.สปพ. (กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191))
ล่าสุดทางด้านลูกสาวอย่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้ให้สัมภาษณ์หลังกลับจากเดินทางไปพบ "นายทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต่างประเทศ ว่า เมื่อคืนนี้ (11 ก.ค. 2566) ได้พูดคุยกับคุณพ่อ เรื่องของการกลับประเทศไทย ได้บวกลบจากเวลาที่เคยประกาศไปไม่เยอะมาก และไม่อยากให้ประเด็นการเมืองที่ยังไม่นิ่ง ก่อนหน้านี้คุณพ่อ เคยให้สัมภาษณ์ว่า แม้จะบอกว่า ไม่เกี่ยวข้อง แต่คนก็มองว่า เป็นการเมือง
คุณพ่อไม่ได้อยากกลับมา เพื่อทำให้เป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ถ้ากลับมาแล้วช่วยแก้ปัญหาก็จะดีกว่า ไม่ใช่กลับมาในช่วงการเมืองยังไม่นิ่ง ไม่สงบ แล้วจะทำให้เกิดความวุ่นวาย คุณพ่อก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น แต่ส่วนตัวคิดว่า คงไม่ใช่เปลี่ยนวันกลับ เป็นเมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ อาจจะบวกลบไม่เยอะ
โดย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า คุณพ่อจะกลับมา แต่ถ้าไม่ใช่เดือนกรกฎาคม ก็คิดว่าอาจจะห่างออกไปไม่มากนัก ต้องดูก่อนว่าจะจบแบบไหน พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรต้องดูอีกที ส่วนจะต้องกลับมาเมื่อตั้งรัฐบาลเรียบร้อยหรือไม่นั้น คุณพ่อไม่ได้พูดว่าตั้งรัฐบาลก่อนแล้วกลับมา ไม่ได้มีโจทย์นั้น เพียงแต่ให้สถานการณ์นิ่งกว่านี้ จะได้ไม่เป็นตัวกระตุ้นทางการเมือง
พร้อมกับกล่าวทิ้งท้ายว่า "ปัจจัยหลักในการกลับมาขึ้นอยู่กับสถานการณ์การเมือง เพราะการกลับมาของคุณพ่อต้องประเด็นอยู่แล้ว ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่อยากทำให้เกิดความวุ่นวาย คุณพ่อห่วงประเทศในเรื่องนี้ อยากทำให้ทุกอย่างเรียบร้อยก่อน"