แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เผยอาการล่าสุด ทักษิณ ยังต้องเฝ้าระวัง งดเยี่ยมทุกกรณี

23 สิงหาคม 2566

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เผยอาการล่าสุด "ทักษิณ ชินวัตร" ยังมีอาการเหนื่อยหอบ แพทย์งต้องเฝ้าระวัง สั่งงดเยี่ยมทุกกรณี

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าว นายทักษิณ ชินวัตร อาการป่วยกำเริบต้องส่งรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ กลางดึก ล่าสุด วันที่ 23 ส.ค. 66 พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ได้เปิดเผยถึงประเด็นดังกล่าว ยืนยันไม่ได้มีการประสานล่วงหน้า โดยนายทักษิณ มีอาการออกซิเจนตก ความดันโลหิตสูง

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เผยอาการล่าสุด ทักษิณ ยังต้องเฝ้าระวัง งดเยี่ยมทุกกรณี

ซึ่งทางด้าน พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจา เผยว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา กรมราชทัณฑ์ได้เคลื่อนย้ายตัวนายทักษิณ ชินวัตร มาเข้ารักษาตัวด่วนที่โรงพยาบาลตำรวจว่า เมื่อวานนี้ นายทักษิณได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่ด้วยเกิดอาการแน่นหน้าอกกะทันหัน ค่าออกซิเจนตก ค่าความดันโลหิตสูงมาก ทีมแพทย์ราชทัณฑ์ก็เก่งมา พยายามจะดึงความดันลง แต่ก็ลงได้ไม่เยอะ แต่ทำได้ไม่มาก จึงลงความเห็นให้ส่งตัวด่วนมาที่โรงพยาบาลตำรวจในช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เผยอาการล่าสุด ทักษิณ ยังต้องเฝ้าระวัง งดเยี่ยมทุกกรณี

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สุดความสามารถของทีมแพทย์ราชทัณฑ์ แล้วใช่หรือไม่? ถึงได้ส่งตัว อดีตนายกฯทักษิณ มาที่ นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ตอบว่า อ.หมอราชทัณฑ์เก่ง แต่โรงพยาบาลราชทัณฑ์มีแพทย์อยู่น้อย โดยเฉพาะแพทย์เฉพาะทางมีขีดจำกัด

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เผยอาการล่าสุด ทักษิณ ยังต้องเฝ้าระวัง งดเยี่ยมทุกกรณี

โดยแพทย์ได้ทำการรักษาด้วยการให้น้ำเกลือ พร้อมระดมทีมแพทย์ตั้งเป็นคณะรักษารวม 6 ท่าน มีหมอเชี่ยวชาญด้านหัวใจ ปอด และ โควิด19 อยู่ในทีมดังกล่าว ซึ่งนายทักษิณไม่ได้ใส่เครื่องพันธนาการ เนื่องจากตามกฎหมายผู้ป่วยต้องโทษที่มีอายุน้อยกว่า 16 ปี หรือมากกว่า 70 ปีขึ้นไปไม่ต้องใส่เครื่องพันธนาการ เพราะจะทำให้การรักษาเกิดความยุ่งยาก

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เผยอาการล่าสุด ทักษิณ ยังต้องเฝ้าระวัง งดเยี่ยมทุกกรณี

ทั้งนี้ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ กล่าวว่า อาการล่าสุดนายทักษิณ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 23 ส.ค. 66 จากการสอบถามทีมแพทย์ที่รักษา นายทักษิณมีอาการดีขึ้นเล็กน้อยกว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ยังใส่สายออกซิเจน ความดันยังสูงอยู่ สามารถสื่อสารได้แต่ยังมีอาการเหนื่อยหอบ แพทย์ต้องเฝ้าระวัง โดยสั่งงดเยี่ยมทุกกรณี ส่วนกรณีถ้าญาติต้องการย้ายตัวไปโรงพยาบาลเอกชน จะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจกรมราชทัณฑ์ พร้อมยืนยันว่าการรักษาผู้ป่วยสูงอายุไม่ได้มีการเลือกปฏิบัติตามกระแสสังคม เพราะก่อนหน้านี้มีการส่งผู้ป่วยอายุมากมารักษาเช่นกัน