วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567 ศาลแขวงปทุมวัน นัดฟังคำพิพากษาคดีแฟลชม็อบปี 62 ที่แกนนำพรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้า ร่วมชุมนุมทางการเมืองที่สกายวอล์กเมื่อปลายเดือน ธ.ค.2562 โดย คดีดังกล่าวเกิดขึ้นที่สกายวอล์ก หน้าหอศิลป์แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2562 หลัง กกต.มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีนายธนาธรให้พรรคกู้ยืมเงิน
โดยในตอนนั้นมีแกนนำพรรคอนาคตใหม่ 5 คน นำโดย น.ส.พรรณิการ์ วานิช , นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ , นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ , นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ นายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร ที่ได้ปราศรัยจุดยืนทางการเมืองในช่วงสถานการณ์โควิด-19
อัยการโจทก์ ยื่นฟ้องความผิดใน 5 ข้อหาได้แก่
1. ข้อหาร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง
2. ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะ โดยกีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานีรถไฟ
3. ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะฯ
4. ทำการชุมนุมสาธารณะในระยะไม่เกิน 150 เมตรจากพระราชวัง
5.ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ถือว่าละเมิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การชุมชนสาธารณะ พ.ศ. 2558 และ พ.ร.บ. ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493
ตามพฤติการดังกล่าว เข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะปี 2558 ในหลายมาตรา ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนและปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และโทษตาม พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงปี 2493 มีโทษปรับไม่เกิน 200 บาท
อัปเดตล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลฯพิพากษาคดี นายธนาธร , น.ส.พรรณิการ์ , นายปิยบุตร และ นายพิธา คดีแฟลชม็อบปี 62 จำคุก 4 เดือนรอลงอาญา 2 ปี ปรับคนละ 11,200 บาท