วันที่ 2 กันยายน 2565 ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ และเกียรติบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติให้กับผู้ทำความดีต่อสังคมและประเทศ ด้านสังคมและสาธารณประโยชน์ ตามโครงการ “ทำดี มีคนรู้” จัดโดยคณะกรรมการดำเนินการจัดกิจกรรมอันเป็นสาธารณประโยชน์เพื่อสังคมและกิจกรรมนันทนาการของวุฒิสภา โดยมีสมาชิกวุฒิสภา นายพีระศักดิ์ พอจิต ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ พร้อมด้วยสมาชิกวุฒิสภา และผู้เข้ารับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณฯ เข้าร่วมกิจกรรม
โดยนายพรเพชร กล่าวว่า ปัจจุบันสังคมไทยมีปัญหามากมายที่ไม่สามารถรอการแก้ไขจากหน่วยงานของรัฐเพียงอย่างเดียว ทำให้งานอาสาสมัครและจิตอาสา จึงเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนและช่วยแก้ไขปัญหาและวิกฤตของสังคม ตลอดจนเป็นการสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ ซึ่งบุคคลผู้มีจิตอาสา เสียสละ มีความกล้าหาญในการปฏิบัติหน้าที่อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นจากสถานการณ์ฉุกเฉิน
และผู้มีจิตอาสาที่ใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาชีพ และเสียสละกำลังกาย เวลา เพื่อสร้างสาธารณประโยชน์ให้กับสังคมอย่างต่อเนื่อง เมื่อทำความดี ต้องมีคนรับรู้ และต้องได้รับการชื่นชม พร้อมมอบกำลังใจให้แก่บุคคลกังกล่าว และสนับสนุนให้เป็นบุคคลต้นแบบของสังคมในการทำความดีต่อไป
ด้านนายพีระศักดิ์ กล่าวว่า คณะกรรมการฯได้ดำเนินการจัดกิจกรรมทั้งที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและสังคม ตลอดจนการให้ความช่วยเหลือประชาชนจากภัยธรรมชาติและวิกฤตการณ์ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยอาศัยการเป็นผู้มีจิตอาสา เป็นตัวขับเคลื่อน จิตอาสา ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการเป็นบุคคลต้นแบบให้แก่ผู้อื่นในการทำความดีแบบไม่หวังผลตอบแทน
โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนไทย เพื่อสร้างสังคมที่เข้มแข็งอย่างยั่งยืน คณะกรรมการฯจึงได้พิจารณาคัดเลือกบุคคลผู้ทำความดีต่อสังคมและประเทศ จากผลงานเชิงประจักษ์ที่ได้สร้างสาธารณประโยชน์เพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติ และให้กำลังใจกับผู้ทำความดีต่อสังคมและประเทศ
จากนั้นประธานวุฒิสภาได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ และเกียรติบัตรยกย่องเชิดชูเกียรติ ให้กับผู้ทำความดีต่อสังคมและประเทศ ด้านสังคมและสาธารณะประโยชน์ โดยแบ่งเป็นกลุ่มบุคคลผู้มีจิตอาสา เสียสละ มีความกล้าหาญในการปฎิบัติหน้าที่อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยเพื่อช่วยเหลือ ผู้อื่นจากสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้กับผู้แทนครอบครัวของอาสาสมัครบรรเทาสาธารณะภัยกรณีเหตุการณ์เพลิงไหม้หมู่บ้านกฤษดานคร 31 เขตทวีวัฒนากรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2564 จำนวน 4 ครอบครัว
และกลุ่มบุคคลผู้มีจิตอาสาใช้ความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาชีพและเสียสละกำลังกายเวลาและสติปัญญาเพื่อสร้างสาธารณะประโยชน์ให้กับสังคมอย่างต่อเนื่อง จำนวน 6 คน พร้อมกล่าวชื่นชมและสดุดี วีรกรรมกล้าหาญของอาสาสมัครบรรเบาสาธารณภัย ทั้ง 4 คน ที่อุทิศตนปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต และชื่นชมให้กำลังใจกับจิตอาสาทั้ง 6 คนอีกด้วย