นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา เพื่อให้ประเทศเดินหน้าทั้งในด้านเศรษฐกิจ และสังคม ทำให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ ประกอบกับทิศทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2565 กำลังฟื้นตัว แต่ประชาชนผู้มีรายได้น้อยส่วนใหญ่ยังขาดสภาพคล่องทางการเงิน
การเคหะแห่งชาติจึงขยายกรอบมาตรการช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าใหม่จากเดิมสิ้นสุด 30 กันยายน 2565 ขยายออกไปถึง 31 ธันวาคม 2565 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน และเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐานในระดับราคาที่สามารถรับภาระได้ ทั้งยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัยให้กับประชาชน โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. มาตรการดอกเบี้ยเช่าซื้อพิเศษ กรณีผ่อนชำระกับการเคหะแห่งชาติ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยแบบขั้นบันได ระยะเวลาผ่อน 30 ปี สำหรับกลุ่มลูกค้า 2 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มลูกค้าทั่วไป ในปีแรกอัตราดอกเบี้ย 4%, ปีที่ 2 อัตราดอกเบี้ย 4.75%, ปีที่ 3-5 อัตราดอกเบี้ย 5.5% และปีที่ 6-30 อัตราดอกเบี้ย 6.5% กลุ่มเปราะบาง ได้แก่ ผู้พิการ ผู้สูงอายุ พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว และบุตรที่ประสงค์จะซื้อบ้านในโครงการของการเคหะแห่งชาติให้พ่อแม่อยู่อาศัยรับอัตราดอกเบี้ยในปีที่ 1-2 อัตราดอกเบี้ย 4%, ปีที่ 3-5 อัตราดอกเบี้ย 5.5% และปีที่ 6-30 อัตราดอกเบี้ย 6.5% กรณีสถาบันการเงินปฏิเสธสินเชื่อ ลูกค้าสามารถยื่นขอสินเชื่อจากโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย (คบส.) รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ 1.5% (ตามเงื่อนไขที่กำหนด)
2. มาตรการลดราคาขายพิเศษ (Special Price) โครงการบ้านเอื้ออาทร 56 โครงการ ราคาขายเงินสดพิเศษหน่วยละ 250,000-520,000 บาท จองเพียง 99 บาท และฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ภายใน 60 วัน นับถัดจากวันที่ทำสัญญา สามารถเช่าซื้อกับการเคหะแห่งชาติหรือเช่าซื้อกับโครงการสินเชื่อเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับ
ผู้มีรายได้น้อย (คบส.) ได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด
3. มาตรการบ้านเช่าราคาพิเศษ จำนวน 88 โครงการ ประกอบด้วย ค่าเช่าราคาพิเศษปีแรกเริ่มต้นที่
999 - 1,200 บาท/เดือน (ราคารวมค่าส่วนกลางแล้ว) โดยการเคหะแห่งชาติเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายในการติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า - ประปา ให้แก่ลูกค้า
สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1615 หรือสำนักงานเคหะนครหลวง และสำนักงานเคหะจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline