ทำความรู้จัก Northern Lights สายพันธุ์กัญชาชื่อดัง
เป็นที่ทราบกันดีว่ากัญชา มีสรรพคุณมากมาย ทั้งในเรื่องของการผ่อนคลาย, บรรเทาอาการปวด และการรักษาโรคต่าง ๆ ซึ่งกัญชามีหลากหลายสายพันธุ์ทั่วโลก แต่ก็จะมีอยู่ไม่กี่สายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม “Northern Lights” เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วและยาวนาน มีปริมาณ THC สูงกว่า CBD แต่เพราะอะไรสายพันธุ์นี้ถึงได้เป็นที่นิยมมาอย่างยาวนานจนกระทั่งทุกวันนี้? สาร THC คืออะไร? มีประโยชน์อย่างไร? และคำถามอื่น ๆ อีกมากมาย วันนี้เราจะชวนทุกคนไปทำความรู้จักกับสายพันธุ์นี้ให้มากขึ้น ไปติดตามกัน
ต้นกำเนิด Northern Lights
Northern Lights เป็นที่รู้จักกันครั้งแรกในปี 1970 จากการเพาะปลูกของชายคนหนึ่งที่รู้จักกันในนาม “The Indian” เขาปลูกกัญชาอินดิกาสายพันธุ์อัฟกานิสถานบริสุทธิ์เป็นจำนวน 11 สายพันธุ์ บนเกาะแห่งหนึ่งในแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา
ต่อมาในช่วงกลางทศวรรษที่ 80 Neville Schoenmaker กับฉายา “ราชาแห่งกัญชา” ประเทศเนเธอแลนด์ ได้ทำการพัฒนาสายพันธุ์ที่ต่างออกไปจากสายพันธุ์ดั้งเดิม และเป็นสายพันธุ์ที่มีการผสมผสานระหว่างสายพันธุ์อัฟกานิสถานและสายพันธุ์พื้นเมืองของไทย ซึ่งก็คือสายพันธุ์ Northern Lights ซึ่งมีปริมาณ THC ที่สูงกว่า CBD
Northern Lights ได้รับรางวัล High Times Cannabis Cup และ รางวัล Spanish Cannabis Champions Cup การันตีได้ถึงคุณภาพที่ครองใจผู้บริโภคมาอย่างยาวนานทั่วโลก
THC คืออะไร
ด้วยความที่ Northern Lights มีสาร THC มากกว่า CBD หลายคนคงอยากรู้แล้วว่า THC คือ อะไร? ไปติดตามกัน
THC (Tetrahydrocannabinol) คือ สารสกัดชนิดหนึ่งที่ได้จากต้นกัญชา ซึ่งปกติแล้วในกัญชาและกัญชงจะมีสารประกอบกลุ่มแคนนาบินอยด์อยู่ 2 ชนิด ได้แก่ สาร CBD (Cannabidiol) และสาร THC (Tetrahydrocannabinol) ซึ่งโดยมากเราจะพบสาร THC มากในต้นกัญชา ในขณะที่จะพบ CBD ได้น้อยกว่า
สาร THC เป็นสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท สารนี้จะออกมาพร้อมกับสาร CBD ขณะที่มีการสกัดกัญชา หากร่างกายได้รับสาร THC มากเกินไปอาจให้ผลที่ไม่พึงประสงค์ได้
ลักษณะ และ รสชาติของ Northern Lights
ลักษณะของ Northern Lights จะมีสีเขียวเข้มคล้ายมะกอก เหลื่อมด้วยสีน้ำเงิน และม่วงจาง ๆ ปกคลุมด้วยไตรโคมสีขาวระยิบระยับและเกสรตัวเมีย
Northern Lights มีกลิ่นควันนำ ออกฉุน ๆ, กลิ่นดิน และไม้สนจาง ๆ ให้รสชาติหวาน, เผ็ดร้อน และมีความเปรี้ยวแบบซิตรัสเล็กน้อยที่ปลายลิ้น
การออกฤทธิ์ของ Northern Lights
Northern Lights เป็นสายพันธุ์ลูกผสมระหว่างอินดิกาของอัฟกานิสถานและซาติวาของไทย ทำให้มีปริมาณ THC เข้มข้น 19% ในขณะที่มี CBD ที่ 1% ออกฤทธิ์เร็ว ทำให้สายพันธุ์นี้ตอบโจทย์ต่อความคาดหวังของผู้ใช้กัญชาทั้งทางการแพทย์และเพื่อการผ่อนคลายอย่างแท้จริง แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้
หลังจากที่สูบแม้ในปริมาณที่เล็กน้อย คุณจะเริ่มรู้สึกผ่อนคลาย, สงบ และใจเย็น ซึ่งอาการที่พบได้ค่อนข้างบ่อยคือ จะมีความอยากทานขนมหรือของจุบจิบร่วมด้วย
หลังสูบจะรู้สึกได้เลยว่าร่างกายไม่ต้องการขยับไปไหน อยากแต่จะนอนพักผ่อน ใช้เวลาส่วนตัวอย่างเต็มที่บนที่นอนอันแสนอบอุ่น ช่วยบรรเทาอาการปวดได้เป็นอย่างดี
ประโยชน์ทางการแพทย์ของ THC
แม้ว่าสาร THC ใน Northern Lights จะมีมากกว่า CBD ซึ่ง THC เป็นสารที่ถูกระบุว่า หากใช้นาน ๆ อย่างต่อเนื่อง จะมีผลทำให้เกิดอาการมึนเมาและเสี่ยงต่อการเสพติด แต่ตราบใดที่เหรียญมีสองด้าน THC ก็มีประโยชน์หากใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ ซึ่งสายพันธุ์นี้มีประโยชน์ทางด้านการแพทย์ ดังนี้
THC สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดและลดอาการอักเสบในร่างกายได้ รวมถึงยังสามารถรักษาอาการเกี่ยวกับสุขภาวะต่าง ๆ ได้ เช่น อาการปวดเรื้อรัง, เนื้อเยื่ออ่อน และอาการปวดอันเกิดจากโรคมะเร็ง
โดยเฉพาะกับผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับเคมีบำบัด เนื่องจากมีงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า THC สามารถบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ ด้วยการทำงานที่ไปจับกับตัวรับในสมองและไปควบคุมการทำงานในสารสื่อประสาทที่รับผิดชอบในส่วนนี้นั่นเอง
THC มีผลต่อการกดประสาทในส่วนที่ช่วยให้การนอนหลับ ทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น หลับได้ลึกขึ้น และนานขึ้น ทำให้ร่างกายฟื้นฟูจากความเหนื่อยล้าได้เร็ว
ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุข แต่หากใช้ในปริมาณมากอาจส่งผลทำให้เกิดความวิตกกังวลและความหวาดระแวงได้ โดยเฉพาะกับผู้ที่มีความไวต่อสารนี้
THC อาจมีสารที่มีคุณสมบัติที่ต่อต้านเนื้องอก ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อการรักษาโรคมะเร็งบางชนิดได้ โดยมีงานวิจัยที่ระบุว่า THC อาจทำให้เซลล์มะเร็งตาย ยับยั้งการเติบโต รวมถึงลดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย
ผลข้างเคียงจาก THC
ผลข้างเคียงของ THC ที่พบได้บ่อย ได้แก่
จวบจนปัจจุบันสายพันธุ์ Northern Lights ก็ยังคงเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับการยอมรับและยังเป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทางการแพทย์หรือเพื่อการผ่อนคลาย แต่สำหรับมือใหม่ผู้ที่ต้องการทดลองใช้สายพันธุ์นี้ แนะนำว่าควรเริ่มในปริมาณที่น้อยก่อน แล้วค่อย ๆ เพิ่มปริมาณ หากจำเป็น เพื่อให้ได้ปริมาณที่ตัวเองต้องการ และหมั่นสังเกตอาการหลังใช้เสมอ ในทางกลับกันหากพบว่าร่างกายได้รับผลข้างเคียงที่มากเกินไป แนะนำให้หยุดบริโภคและควรปรึกษาแพทย์ทันที