เจาะลึก Chow Tai Fook แบรนด์เครื่องประดับที่มีชื่อเสียงจากฮ่องกง เปิดบทสัมภาษณ์ "Ms Po Liu" General Manager, Chow Tai Fook คอลเลกชันที่แนะนำให้กับลูกค้าชาวไทย กับการเข้าร่วมงาน Think Business, Think Hong Kong (TBTHK)แสดงคอลเลกชันล่าสุด HUÁ Collection และ Thailand Exclusive Collection
1. คุณมีความเห็นอย่างไรต่อตลาดเครื่องประดับทั้งในไทยและฮ่องกงมีความแตกต่างกันหรือไม่ ทั้งสองตลาดมีทั้งความเหมือนและความแตกต่างขั้นพื้นฐาน
โดยทั้งฮ่องกงและไทยต่างก็มีความชื่นชอบและความต้องการทองคำที่สูง ด้วยทองคำนั้นถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่ง ความเจริญรุ่งเรืองและความโชคดีทั้งในวัฒนธรรมจีนและไทย และยังมีบทบาทสำคัญในการเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษต่างๆเช่นงานแต่งงานพิธีทางศาสนาและเทศกาลต่างๆ ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจอัญมณีเราจึงตระหนักถึง ความสำคัญทางวัฒนธรรมของทองคำทั้งในฮ่องกงและไทยและนำสิ่งเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ในเชิงธุรกิจ
ในแง่ของความแตกต่างฮ่องกงเป็นศูนย์กลางการค้าและเครื่องประดับอัญมณีระดับนานาชาติในขณะที่ประเทศไทยจะอาศัยตลาดและความต้องการภายในประเทศมากกว่าซึ่งเน้นไปที่งานฝีมือแบบดั้งเดิมและความบริสุทธิ์ของทองคำมากกว่า แม้จะมีความแตกต่างกันระหว่างตลาดแต่กลุ่มบริษัทเรามองเห็นโอกาสที่ไม่มีที่สิ้นสุดทั้งในฮ่องกงและไทย และ มุ่งมั่นที่จะสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจโดยการใช้ประโยชน์จากลักษณะเฉพาะและความได้เปรียบในการแข่งขันของตลาดที่แตกต่างกันเพื่อพัฒนากลยุทธ์ทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ
2. ในฐานะที่เป็นกลุ่มบริษัทเครื่องประดับที่มีชื่อเสียงในฮ่องกง คุณให้ความสำคัญกับอะไรมากที่สุดในแง่ของผลิตภัณฑ์และธุรกิจ
เราให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจโดยใช้วิธีการเชิงรุกและตอบสนองลูกค้า ในช่วงปีงบประมาณ 2023 เราได้เริ่มการลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ห้าประการซึ่งประกอบไปด้วย การสร้างจุดยืนของแบรนด์ การเพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ ประสิทธิผลในการดำเนินงานการบ่มเพาะความสามารถอย่างรอบด้าน และการเดินหน้าสู่ยุคดิจิทัล การพัฒนาและมอบประสบการณ์แบบครบวงจรและคุ้มค่าแก่ลูกค้าเป็นแรงผลักดันอย่างต่อเนื่องสำหรับเราเราให้คุณค่าและความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรกและมุ่งมั่นที่จะสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวโดยที่เราสามารถร่วมเฉลิมฉลองกับลูกค้าในช่วงเวลาพิเศษต่างๆของชีวิต
ในส่วนของผลิตภัณฑ์เราจะเปิดตัวแคมเปญการตลาดทั่วโลกทั่วผ่านทางตลาดและช่องทางต่าง ๆ ตัวอย่างเช่นในเดือนนี้เราจะเปิดตัวแคมเปญล่าสุดของHUÁ Collectionโดยสายผลิตภัณฑ์ของเราจะยังคงเชิดชูงานฝีมือและวัฒนธรรมจีนต่อผู้ชมยุคใหม่ต่อไป
3. คอลเลกชันไหนที่อยากแนะนำให้กับลูกค้าชาวไทย
เราคาดว่าจะเปิดตัวHUÁ Collectionซึ่งเป็นคอลเลกชันยอดนิยมในเดือนนี้และเราคาดว่าลูกค้าชาวไทยจะชื่นชอบคอลเลกชันนี้ คอลเลกชันนี้จะผสมผสานความทันสมัยเข้ากับประเพณีโดยนำเสนอเทคนิคการทำทองโบราณด้วยมุมมองที่สดใหม่
Chow Tai Fook นำเสนอสไตล์สมัยใหม่ที่ผสมผสานเข้ากับวัฒนธรรมโดยเปลี่ยนตำแหน่งเครื่องประดับทองเป็นเครื่องประดับสุดเก๋ที่ส่องประกายด้วยเทคนิคการทำทองที่เก่าแก่ หรือ วัสดุล้ำค่าเช่นเพชรและวัสดุที่มีสีสันที่สดใส โดยสินค้าแต่ละชิ้นจะทำด้วยมืออย่างพิถีพิถันด้วยสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์เหมาะอย่างยิ่งสำหรับปรับลุคประจำวันให้ดูโดดเด่น โดยสินค้าใหม่ของHUÁ Collectionได้แปรเปลี่ยนองค์ประกอบทางวัฒนธรรมจากช่วงเวลาต่างๆให้กลายเป็นลวดลายที่โดดเด่นซึ่งสร้างความประทับใจด้วยกลิ่นอายตะวันออกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งถือเป็นคอลเลกชันที่เข้ากันได้กับทุกลุคและทุกโอกาส
4. เหตุใดจึงเข้าร่วมงานTBTHKคุณคาดหวังอะไรจากงานนี้
กลุ่มบริษัทรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เข้าร่วมTBTHKเพราะงานนี้เป็นโอกาสที่วิเศษในการแสดงคอลเลกชันล่าสุดของเราเช่นHUÁ CollectionและThailand Exclusive Collectionในขณะเดียวก็เป็นการตอกย้ำการเติบโตของแบรนด์และประวัติการทำทองและอัญมณี
เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนความพยายามของHKTDC(องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง)ในการสร้างแพลตฟอร์มธุรกิจในฮ่องกงเพื่อขยายไปสู่ตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วและเชื่อมต่อกับชุมชนชาวไทยในฐานผู้สนับสนุนเพชร
5.ดูเหมือนว่าแบรนด์ของคุณจะสนใจเทคโนโลยีและนวัตกรรมเช่นกันนวัตกรรมเด่นที่คุณต้องการแนะนำคืออะไร
เราได้ริเริ่มนวัตกรรมใหม่ ๆ หลายอย่างเพื่อยกระดับประสบการณ์ออนไลน์สำหรับลูกค้าตัวอย่างเช่นปัจจุบันเรามุ่งเน้นการพัฒนาเชื่อมโยงช่องทางที่ลูกค้ามีการเข้าถึงร้านค้าให้เป็นหนึ่งเดียวกันและการเดินทางของลูกค้าโดยการสร้างข้อเสนอต่าง ๆ ให้เหมาะกับโปรไฟล์และความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน นอกจากนี้เรายังจำแนกและปรับตัวให้เข้ากับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้าในด้านเนื้อหาดิจิทัลโดยการเพิ่มตัวตนบนโลกดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์มต่างๆเช่นวิดีโอสั้นและสตรีมมิงแบบสดเรายังตั้งเป้าที่จะดึงดูดลูกค้าด้วยการเพิ่มข้อเสนอทางออนไลน์สุดพิเศษอีกด้วย
6. ได้ตั้งเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนสำหรับอนาคตหรือไม่
Chow Tai Fook มุ่งมั่นที่จะสร้างความยั่งยืนในธุรกิจและใช้แนวทางที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อสะท้อนความพิเศษเฉพาะตัวและการดำเนินงานเราเน้นย้ำการให้ความสำคัญกับปัจจัยสำคัญในการทำงานได้แก่งานฝีมือนวัตกรรมและเทคโนโลยีการจัดซื้อจัดหาอย่างมีความรับผิดชอบผู้คนประสิทธิภาพของทรัพยากร และการลดคาร์บอน
ตัวอย่างของเป้าหมายด้านความยั่งยืนบางส่วนที่ตั้งเป้าให้บรรลุภายในปี 2572 มีดังนี้
• ด้านงานฝีมือนวัตกรรมและเทคโนโลยี: ส่งเสริมงานฝีมือที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นนวัตกรรมและเทคโนโลยีและสร้างจิตวิญญาณด้านศิลปะผ่านการมีส่วนร่วมของมวลชนและโครงการเชิงประสบการณ์เชิงลึกเพื่อเข้าถึงผู้คน10ล้านคน
• ด้านการจัดซื้อจัดหาอย่างมีความรับผิดชอบ:ใช้หลักปฏิบัติที่ดีที่สุดต่อผู้ผลิตและตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้ผลิตรายสำคัญที่ร่วมงานกันในระยะยาวปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างสมบูรณ์100%
• ประสิทธิภาพของทรัพยากรและการลดคาร์บอน: ลดความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกและปริมาณการใช้น้ำของกลุ่มบริษัทและการเอาจริงเอาจังในการจัดการการสร้างของเสียของศูนย์กลางการผลิตลงอย่างน้อย15%
• การให้ความสำคัญกับผู้คน: การสร้างวัฒนธรรมการดูแลเอาใจใส่ที่ประกอบด้วยการตอบแทนชุมชนการพัฒนาพนักงานความหลากหลายการอยู่ร่วมกันความเป็นอยู่ที่ดีและการปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อครอบครัวการเพิ่มชั่วโมงการบริการงานอาสาสมัครของพนักงานขึ้น30%*