พาณิชย์-DITP จับมือ Amazon Global Selling ประเทศไทย ดันสินค้า SMEs สู่ตลาดโลก

30 สิงหาคม 2566

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) จับมือ Amazon Global Selling ประเทศไทย จัดกิจกรรม DITP × Amazon : Next Step to Global ดันสินค้าของผู้ประกอบการไทยเข้าสู่ตลาดออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Amazon เปิดตัวสู่ตลาดโลก

   นายพรวิช ศิลาอ่อน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมได้ร่วมกับ Amazon Global Selling ประเทศไทย จัดกิจกรรม DITP × Amazon : Next Step to Global เพื่อเสริมศักยภาพด้านการค้าออนไลน์แก่ผู้ประกอบการ แนะนำช่องทางการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนการจัดการด้านโลจิสติกส์ เพื่อผลักดันผู้ประกอบการไทยให้สามารถก้าวเข้าสู่เวทีการค้าออนไลน์ได้อย่างเข้มแข็ง และที่พิเศษสำหรับวันนี้ คือ  กิจกรรมการจับคู่ธุรกิจ เพื่อเฟ้นหาสินค้าไทยที่มีศักยภาพวางขายบนแพลตฟอร์ม Amazon ซึ่งมีเครือข่ายลูกค้ากว่า 300 ล้านคนทั่วโลก

พาณิชย์-DITP จับมือ Amazon Global Selling ประเทศไทย ดันสินค้า SMEs สู่ตลาดโลก

“กรมขอบคุณทีม Amazon Global Selling ประเทศไทย ผู้แทนจาก Payoneer และ FastShip ที่ได้มาร่วมให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการไทย ทั้งในด้านกลยุทธ์ และเทคนิคการขายออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกอย่างไม่เป็นรองใคร และขอขอบคุณ KetoNaturals ที่มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การขายบนแพลตฟอร์มให้ประสบความสำเร็จ

พาณิชย์-DITP จับมือ Amazon Global Selling ประเทศไทย ดันสินค้า SMEs สู่ตลาดโลก

 

ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจในการประกอบธุรกิจด้านการค้าออนไลน์แก่ผู้ประกอบการไทย และประสบความสำเร็จในเวทีการค้าออนไลน์ กลายเป็นผู้ขายบนแพลตฟอร์ม Amazon และสามารถสร้างยอดขายได้ตามที่มุ่งหวัง ตลอดจนประกาศศักยภาพสินค้าไทยให้เป็นที่รู้จักในตลาดโลกได้เพิ่มขึ้น”นายพรวิชกล่าว


นายพรวิชกล่าวว่า สำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทยมาโดยตลอด โดยในปี 2565 มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐอเมริกา สูงถึง 47,500 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 16.56 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของไทย ขยายตัวจากปีก่อนหน้าร้อยละ 13.40 และในปี 2566 กรมคาดว่าตลาดสหรัฐอเมริกาจะเติบโตถึงร้อยละ 6 และยิ่งไปกว่านั้น สหรัฐอเมริกายังเป็นตลาด e-Commerce ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งในปี 2565 มีมูลค่าสูงกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ และมีแนวโน้มที่จะเติบโตถึงร้อยละ 70 ในอีก 5 ปีข้างหน้า
.

ทั้งนี้ ภายในปี 2569 ตลาดอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดนของประเทศไทยมีโอกาสเติบโตสูงกว่า 4 แสนล้านบาท จึงเป็นโอกาสดีของผู้ประกอบการไทย ที่จะใช้ช่องทางนี้ขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งกรมได้ตระหนักถึงโอกาสนี้มาโดยตลอด และได้พัฒนาเครื่องมือ รวมถึงกิจกรรมที่ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการ ด้านการค้าออนไลน์มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ เว็บไซต์ Thaitrade.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ e-Commerce ของกรม ที่ผลักดันให้ผู้ขายไทยสามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย , โครงการร้าน “TOPTHAI Store” คือ ร้านที่กรมเปิดบนแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำ ในตลาดเป้าหมาย

 

พาณิชย์-DITP จับมือ Amazon Global Selling ประเทศไทย ดันสินค้า SMEs สู่ตลาดโลก

ซึ่งมีจุดแข็งคือ เป็นร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าท็อปๆ และมีเอกลักษณ์จากไทย ที่ผ่านการคัดสรรจากรัฐบาลไทย และกิจกรรม “Cross Border e-Commerce ขายออนไลน์สู่ตลาดโลก” เป็นกิจกรรมที่ช่วยผลักดันผู้ประกอบการไทยขยายตลาดสู่ต่างประเทศ ผ่านการเจรจาจับคู่ธุรกิจร่วมกับแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำ เพื่อนำสินค้าไทยวางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มเหล่านั้น

พาณิชย์-DITP จับมือ Amazon Global Selling ประเทศไทย ดันสินค้า SMEs สู่ตลาดโลก

สำหรับความร่วมมือระหว่าง DITP และ Amazon เกิดขึ้นมาตั้งแต่ธันวาคม 2563 โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ประกาศความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับ Amazon.com ในงาน Amazon Virtual Seller’s Conference ในการร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ให้ขยายโอกาสในการส่งออกสินค้า “Made in Thailand” เข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกา ต่อมาได้มีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น จัดงาน Amazon Global Selling Thailand Seller Conference 2022 การผลักดันผู้ประกอบการไทยให้สามารถขยายการส่งออกผ่านแพลตฟอร์ม Amazon.com

 

และการเปิดร้าน TOPTHAI บนแพลตฟอร์ม Amazon ในสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2563 ในกลุ่มสินค้าอาหาร และสินค้าสุขภาพและความงาม ซึ่งถือได้ว่าเป็นกลุ่มสินค้าไทยที่มีศักยภาพสูงในตลาดสหรัฐอเมริกา มีผู้ส่งออกไทยเข้าร่วมโครงการจำนวน 10 ราย 11 แบรนด์ รวมสินค้าทั้งหมดจำนวนกว่า 200 SKUs เกิดมูลค่าการซื้อขายกว่า 48 ล้านบาท