กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) แจงผลสำเร็จของ “โครงการเพิ่มขีดความสามารถทางการตลาดด้วยพาณิชย์ดิจิทัล” ในการเพิ่มช่องทางช่วยผู้ประกอบการไทยขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้กว่า 2,133 ล้านบาท เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้มาก และส่งเสริมผู้ประกอบการไทยผ่าน e-Commerce กว่า27,000 ราย
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) แถลงผลสำเร็จจากการดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์ “ตลาดนำ นวัฒกรรมเสริม เพิ่มรายได้” สนับสนุนและส่งเสริมเศรษฐกิจแพลตฟอร์ม (Platform Economy) เน้นใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลในการเข้าถึงและขยายช่องทางการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะการสร้างและพัฒนาต่อยอดระบบตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ “Thaitrade.com” การหา
พันธมิตรแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำในตลาดสำคัญ การผลักดันและขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และการยกระดับประสิทธิภาพระบบ Online business matching โดยในปี 2566 เราสามารถช่วยเพิ่มรายได้เข้ากระเป๋าผู้ประกอบการไทยผ่านการขายสินค้าในช่องทางออนไลน์ สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการไทยกว่า 2,133 ล้านบาท และเพิ่มจำนวน ผู้ประกอบการไทยให้ซื้อขายผ่าน e-Commerce กว่า 27,000 ราย”
นายนิษณะ ทวีพาณิชย์ ผู้อำนวยการสำนักตลาดพาณิชย์ดิจิทัล กล่าวเพิ่มเติมว่า “ภารกิจของกรมฯ คือการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย ในการทำการค้าระหว่างประเทศผ่านช่องทาง e-Commerce โดยได้ทำงานแบบเชิงรุกมาอย่างต่อเนื่อง ผ่าน 4 โครงการหลัก คือ
1)โครงการพัฒนาและส่งเสริมการค้าปลีกสมัยใหม่ผ่านช่องทางการค้าออนไลน์ระหว่างประเทศ สร้างมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 175 ล้านบาท โดยร่วมกับแพลตฟอร์มชั้นนำในการเปิดร้าน TOPTHAI Store ถึง 7 แพลตฟอร์ม คือ Tmall, Amazon, Bigbasket, Klangthai, Blibli, PChome และ Shopee ปัจจุบัน มีแบรนด์สินค้าไทยเข้าร่วมกว่า 2,000 แบรนด์ นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรมจับคู่เจรจาซื้อขายกับแพลตฟอร์มดังกล่าว อีก 5 ครั้ง มีผู้เข้าร่วม 1,000 ราย เกิดการจับคู่เจรจาธุรกิจ จำนวน 245 คู่
2) โครงการพัฒนาตลาดพาณิชย์ดิจิทัลและระบบนิเวศเพื่อส่งเสริม SMEs จากฐานรากสู่สากล ผ่านการส่งเสริมและสนับสนุนการจำหน่ายสินค้าและบริการบนเว็บไซต์ Thaitrade.com รวมถึงให้คำปรึกษาผู้ซื้อ-ผู้ขายออนไลน์ที่อยู่บนเว็บไซต์ สร้างมูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 1,958 ล้านบาท ปัจจุบันมีผู้ขอรับคำปรึกษาแล้ว จำนวน 26,000 ราย
3) โครงการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ e-Commerce ระหว่างประเทศ โดยศึกษาและวิเคราะห์ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาอิเล็กทรอนิกส์ของไทยให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล และได้นำผลวิเคราะห์มาสู่การลงมือปฏิบัติจริงเพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน
4) โครงการพัฒนาระบบส่งเสริมการเจรจาการค้า Online อัจฉริยะ (Smart Online Business Matching : Smart OBM) โดยประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กับระบบการเจรจาการค้าที่อยู่บน Thaitrade.com ให้สามารถใช้งานในรูปแบบ Application เพื่อให้ Thaitrade.com เป็นตลาดการเจรจาการค้าออนไลน์ระหว่างประเทศที่เข้าถึงง่ายและใช้งานได้สะดวก ปัจจุบันมีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมมากกว่า 1,100 ร้านค้า
ในปี 2567 เรายังมุ่งมั่นในการดำเนินงานเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ “โครงการเพิ่มขีดความสามารถทางการตลาดด้วยพาณิชย์ดิจิทัล” เพื่อ “ลดจายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส”และเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้เข้มแข็ง แข่งขันได้อย่างยั่งยืนต่อไป