รมว.กก. ผนึกกำลัง ผู้ว่าฯททท. เยือนคุนหมิง ชูภาคอีสาน ดันนักท่องเที่ยวจีน

วันนี้ (16 พฤศจิกายน 2566) นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วย ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประจำสาธารณรัฐประชาชนจีนทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ ททท.สำนักงานปักกิ่ง, ททท.สำนักงานเซี่ยงไฮ้, ททท.สำนักงานคุนหมิง,  ททท.สำนักงานเฉิงตู และททท.สำนักงานกว่างโจว เปิดประชุมระดมความคิดเพื่อกระตุ้นและเตรียมการส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวจีนในครึ่งปีหลังของปี 2566 พร้อมเตรียมอัดกิจกรรมกระตุ้นตลาดศักยภาพจากจีน คาดการณ์ส่งผลดีนักท่องเที่ยวจีนมาเยือนไทยปีนี้สูงถึง 4.1 ล้านคน ตั้งเป้าหมายรายได้จากการท่องเที่ยวตลาดจีนในปี 2566 นี้ ให้ถึง 2 แสนล้านบาท

การประชุมกระตุ้นและเตรียมการส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวจีน จัดขึ้นที่ โรงแรม Wanda Vista นครคุณหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน นับเป็นมาตรการสำคัญในการดำเนินงานร่วมกับสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยประจำสาธารณรัฐประชาชนจีนทั้ง 5 แห่ง เพื่อร่วมกันวิเคราะห์ถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวจีนในปัจจุบันที่มีความต้องการการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม การวางกลยุทธ์ทางการตลาด และการตลาดเชิงกลยุทธ์โดยร่วมกับแพลตฟอร์มออนไลน์ชั้นนำของจีน อาทิ TikTok Weibo KUAISHOU HuaWei เป็นต้น

โดยจะนำอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยในโครงการเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์เชิงบวกให้กับการท่องเที่ยวไทย เนื่องจากอินฟลูเอนเซอร์และแพลตฟอร์มดังกล่าวเข้าถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการท่องเที่ยวพร้อมกับเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิต อีกทั้ง ยังเป็นการเผยแพร่การท่องเที่ยวไทยในเชิงบวกรวมถึงได้ทราบพฤติกรรมความสนใจเรื่องใดเป็นพิเศษเพื่อนำมาพัฒนาต่อยอดแผนการตลาดให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น

สำหรับการดำเนินการกระตุ้นและเตรียมการส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวจีนมีเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวคุณภาพเข้าไทยในปี 2566 จำนวน 4.1 ล้านคน รายได้รวม 2 แสนล้านบาท และในปี 2567  คาดว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวไทยได้อีก 8.2 ล้านคน เพิ่มรายได้เข้าประเทศ 4.5 แสนล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจุบันนักเที่ยวจีนเข้ามาใช้จ่ายในการท่องเที่ยวไทยเป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท/คน/วัน และใช้เวลาท่องเที่ยวในไทยโดยเฉลี่ยประมาณ 10 วัน/คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางด้วยตัวเอง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2562 จากเดิมนักเที่ยวจีนเข้ามาใช้จ่ายในการท่องเที่ยวไทยเป็นจำนวนเงิน 11,000 บาท/คน/วัน และใช้เวลาท่องเที่ยวในไทยโดยเฉลี่ยประมาณ 7.5 วัน/คน จำนวนดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเม็ดเงินที่นักท่องเที่ยวใช้ต่อวันเพิ่มมากขึ้นเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้จากการสำรวจพฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจะเดินทางมาท่องเที่ยวกับคนสนิท เช่น ครอบครัว กลุ่มเพื่อนสนิท หรือประมาณ 6-8 คนต่อกรุ๊ปมากกว่าการเดินทางมาเป็นคณะทัวร์ใหญ่ๆ เนื่องจากชอบการท่องเที่ยวแบบส่วนตัวมากขึ้น และเน้นท่องเที่ยวในท้องถิ่นเพื่อเพิ่มประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพ เช่น มีการร่วมกิจกรรมประเพณีท้องถิ่น เช่น ลอยกระทง สงกรานต์ หรือการเรียนมวยไทย ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เรียนรู้การทอผ้าไหมพื้นเมือง เป็นต้น โดยจะนำร่องชูภาคอีสานนำเสนออัตลักษณ์ความเป็นพื้นถิ่นของภาคอีสานที่มีขนบธรรมเนียมวัฒนธรรม เอกลักษณ์โดดเด่นแฝงไปด้วยความสนุกสนานของคนอีสานเอง อีกทั้ง เป็นการเสริมสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ด้วยการนั่งรถไฟความเร็วสูงเส้นทางจากคุณหมิงสู่ประเทศไทย และสามารถเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยต่อด้วยรถยนต์ หรือบิ๊กไบค์ เนื่องจากการท่องเที่ยวในลักษณะดังกล่าวนี้นักท่องเที่ยวจีนรู้สึกคุ้มค่าในการเดินทางมาท่องเที่ยว
 
ททท. ยังกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนโดยการสื่อสารกับนักท่องเที่ยวจีนด้วยแคมเปญ “เที่ยวเมืองไทยยิ่งไปยิ่งสนุก” โดยจะเป็นการสื่อสารต่อนักท่องเที่ยวชาวจีนให้เห็นภาพความสุข ความสนุกสนาน ความสวยงาม ที่จะได้รับ เมื่อมาท่องเที่ยวประเทศไทย
 

สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย หากเปรียบเทียบจากข้อมูลสถิติในปี 2562 ตั้งแต่ 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2562 นักท่องเที่ยวจากจีนเข้าไทย 11.1 ล้านคน และสถานการณ์การท่องเที่ยวของโลกเพิ่งฟื้นตัวทำให้ข้อมูลสถิติในปี 2566 ตั้งแต่ 1 มกราคม – 31 ตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นระยะเวลาเพียง 10 เดือนมีนักท่องเที่ยวทะลัก 2.7 ล้านคน คาดว่าแผนกระตุ้นและเตรียมการส่งเสริมตลาดนักท่องเที่ยวจีนจะเป็นหัวใจสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนกลับมาเที่ยวประเทศไทยเพิ่มขึ้น