17 พ.ย. 66การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผนึกกำลังผู้ประกอบการทางการท่องเที่ยวไทยและพันธมิตรทางการท่องเที่ยวจีน ร่วมงาน CITM2023 ระหว่างวันที่ 17 – 20 พฤศจิกายน 2566 ณ Kunming International Convention and Exhibition Center นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. และนางสาวภาวีวรรณ นรพัลลภ กงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง ร่วมเปิดคูหาประเทศไทยผ่านการตีกลองตุ้ม สัญลักษณ์แห่งความโชคดี โดยแนวคิดการตกแต่งคูหาประเทศไทยในปีนี้เน้นการประชาสัมพันธ์และสร้างรับรู้ประเทศไทยในรูปแบบศิลปวัฒนธรรมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สอดรับกับการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการของรถไฟความเร็วสูงจากนครคุนหมิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน อีกทั้ง ททท. ใช้โอกาสนี้ในการผลักดันแคมเปญ เที่ยวอีสานของไทยยิ่งปยิ่งสนุก
โดยเป็น new approach ใหม่ของประเทศไทย ซึ่งมีหลักการดังนี้
1. New mode of arrival : เส้นทาง R3A/คาราวานรถยนต์/รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว
2. New Products: วัฒนธรรม ประเพณี ธรรมชาติ เส้นทางเลียบแม่น้ำโขง เส้นทางสายมู
3. New segment @new partners: กลุ่มวัยรุ่น/ผู้สูงอายุที่ชอบผจญภัย ชอบหาแหล่งเที่ยวใหม่ๆ มีเวลามาก และนักธุรกิจ
เพื่อตอกย้ำถึงศักยภาพความพร้อมของประเทศไทยในการต้อนรับนักท่องเที่ยวและสร้างการรับรู้เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ คือภาคอีสานของไทยให้ให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนด้วย
ซึ่งนอกจากนี้ ทางด้านของ นางสาวสุดาวรรณ ยังได้กล่าวถึงโอกาสที่นอกจากจะผลักดันภาคอีสานแล้วนั้น ในอนาคตอันใกล้ก็จะมีการผลักดันภาคอื่นๆ สู่สายตาชาวโลก เพราะปัจจุบันก็ต้องบอกว่า ภูเก็ตหรือเชียงใหม่ก็เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
เมื่อถามต่อว่า เมืองรองที่ททท.นั้นคอยผลักดัน และทำมาตลอดนั้น ก็อยากจะมีปรับและพัฒนาให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักมากยิ่งขึ้น เพราะต้องยอมรับว่านักท่องเที่ยวจะคุ้นกับเมืองหลักๆ ถ้าเราทำให้นักท่องเที่ยวรู้จักเมืองรองมากยิ่งขึ้น ก็จะเป็นการกระจายรายได้สู่เมืองเล็กๆ ด้วยเช่นกัน
โดยทีมข่าวไทยนิวส์ของเรานั้นก็ได้พูดคุยกับประชาชนชาวจีนรวมทั้งนักศึกษาจีนที่เรียนภาษาไทย ก็ต่างยอมรับว่าอยากจะไปเที่ยวประเทศไทย ถ้ามีโอกาสก็จะไปอย่างแน่นอนเพราะคนไทยยิ้มแย้มแจ่มใสและอาหารไทยก็น่าลิ้มลองเป็นอย่างมาก ส่วนเรื่องความเชื่อมั่นนั้น ประชาชนชาวจีนไม่รู้สึกกังวลแต่อย่างใด
ซึ่งทางด้านของ ผู้ว่าการ ททท. ได้กล่าวถึงการรุกแบบจริงจังสำหรับตลาดนักท่องเที่ยวจีนในครั้งนี้ เราตั้งเป้าว่าจะต้องสร้างความเชื่อมั่นสูงสุดให้กับนักท่องเที่ยว โดยในปี 66 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาสูงถึง 4.1 ล้านคน รายได้รวม 2 แสนล้านบาท และปี 67 คาดว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวไทยได้อีก 8.2 ล้านคน ซึ่งถือว่าเป็นการคัมแบ็คครั้งใหญ่ของนักท่องเที่ยวจีน